สนามบินชางงีสิงคโปร์ทุบสถิติปี 58
ท่าอากาศยานชางงีกรุ๊ปเผยแพร่ข้อมูลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ว่า
สนามบินชางงี ของสิงคโปร์มีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 55.4 ล้านคน และมีเที่ยวบินที่บินขึ้นลงที่นี่มากถึง 346,330 เที่ยวบินในปี 2558 โดยจากสถิติแสดงว่า มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.5% ในเที่ยวบินขาเข้า และเพิ่มขึ้น 1.4% ในเที่ยวบินขาออก
เฉพาะในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว สนามบินชางงีมีผู้โดยสารใช้บริการมากถึง 5.29 ล้านคน ซึ่งนับว่าเป็นสถิติสูงสุดประจำเดือน นับตั้งแต่มีการเปิดใช้สนามบินในปี 2524 เป็นต้นมา โดยสนามบินชางงีทำลายสถิติประจำวันในวันที่ 19 ธ.ค. ที่มีผู้โดยสารใช้บริการมากถึง 192,000 คนตลอด 24 ชั่วโมง
การบริหารจัดการจราจรทางอากาศของสนามบินชางงีอยู่ในเชิงบวก โดยติดอันดับอยู่ใน 10 สนามบินชั้นนำในตลาดประเทศไทย เวียดนาม และจีน และยังมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
ขณะที่ภาคขนส่งสินค้าของสนามบินเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย อยู่ที่ 1.85 ล้านตันในปี 2558 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในตลาดสินค้าราคาแพง ยกตัวอย่างเช่น มีการเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักในภาคส่วนการขนส่งยารักษาโรค คือขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 44% ในปี 2558
ตรงกันข้ามกับภาคอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ที่อยู่ในช่วงขาลง การแข่งขันดิ้นรนในตลาดที่ยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สำนักงาน และตัวแทนบางคนต้องออกไปประกอบอาชีพอื่นแทน
นายเอลตัน ลิม อายุ 45 ปี ตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างมาก โดยเขาออกจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลังจากทำงานมานานถึง 13 ปี ไปเปิดแผงขายอาหารในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เพื่อดิ้นรนให้พ้นจากธุรกิจช่วงขาลง เขากล่าวว่า
“ตลาดเริ่มให้ผลทางลบหลังจากมีมาตรการลดความร้อนแรงออกมา รายได้ของผมลดลงไป 40-60% ในช่วงกลางปี 2558”
โดยในช่วง 5 เดือนหลังของปีที่แล้ว เขาต้องเอารถไปขับให้กับบริการแท็กซี่อูเบอร์ เพื่อหารายได้เสริม จนกระทั่งมีโอกาสได้เปิดแผงขายอาหารเป็นของตัวเอง เขาหวังจะขยายธุรกิจเล็กๆของเขา แต่ก็อาจจะหวนคืนวงการอสังหาริมทรัพย์อีกครั้งเมื่อตลาดฟื้นตัว
บริษัทตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งหลาย ก็ให้เวลากับการฝึกอบรม และเรียนรู้เทคโนโลยีของตัวแทนมากขึ้น โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ 2 แห่งตั้งงบไว้ 2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีนี้เพื่อใช้ในการฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะความสามารถเพิ่มขึ้น
โดยนายยูจีน ลิม ผู้บริหารคนสำคัญของบริษัท อีอาร์เอ กล่าวว่า งบประมาณในการฝึกอบรมของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากปีก่อนหน้านี้ เขากล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่บริษัทมุ่งเน้นคือ ทำให้ทักษะการสร้างของตัวแทนของเราแหลมคมขึ้น โดยมีการฝึกอบรมฟรี เพื่อเน้นเกี่ยวกับ ความรู้ทางการตลาด การตลาด และเทคนิคการขาย
สำหรับบริษัทพร็อพเน็กซ์เอง ในปี 2558 ก็จัดให้มีการเข้าค่ายเพื่อกระตุ้นศักยภาพของตัวแทน นายอิสลามิ กาฟูร์ ประธานบริหารบริษัท กล่าวว่า มีตัวแทนมากกว่า 400 คนเข้าร่วมฝึกอบรมในค่ายเป็นเวลา 2 วันเมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าจะมีจำนวนสูงถึง 1,000 คนในปีนี้
นางสาวจอยซ์ ตัน อายุ 38 ปี กล่าวว่าโปรแกรมฝึกอบรมส่งให้เธอก้าวออกจากโซนความสบาย เธอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “มีกิจกรรมหนึ่ง เราต้องออกไปนอกสถานที่ด้วยเงิน 10 ดอลลาร์สิงคโปร์ และพยายามทำกำไรจากเงินนี้ให้มากที่สุดภายใน 2 ชั่วโมง ซึ่งทำให้เราตระหนักได้ถึงศักยภาพในการขายของเรา” โดยเธอเล่าเสริมว่าทีมของเธอทำได้ถึง 140 ดอลลาร์สิงคโปร์จากการขายน้ำดื่มบรรจุขวด และกระดาษทิชชู่