เพิ่มการค้าไทย–เมียนมา
จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรีอเออีซี อย่างเป็นทางการ ในเดือนม.ค.นี้ เมียนมา และไทยมีแผนที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้เป็นตรหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีหน้า
ไทยเป็นประเทศคู่ค้ากับเมียนมาเป็นอันดับ 2 รองจากจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่มาก ทั้งเมียนมา และไทยเห็นพ้องกันว่าจะเพิ่มการเติบโตทางการค้าให้มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีหน้า โดยสื่อในไทยรายงานว่า ทั้งสองประเทศมีแผนจะเพิ่มมูลค่าการค้าให้สูงถึง 10,000 -12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 350,000-420,000 ล้านบาท (35 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ) โดยอ้างอิงข้อมูลจากการประชุมคณะกรรมการร่วมของทั้งสองประเทศที่จัดขึ้นในเมืองเนปิดอว์เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา
นายมินท์ โช ผู้อำนวยการของกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มีหลายหนทางที่เมียนมา และไทยจะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน รวมถึงการแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าตามชายแดน และคลายกฎระเบียบให้เข้มงวดน้อยลง
นายมินท์ โช กล่าวต่อไปว่า “ถ้าเราเปลี่ยนการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนให้กลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย จะเกิดผลดีกับทั้งสองประเทศ เพราะในปัจจุบัน ยังมีการค้าผิดกฎหมายอยู่มากมาย สิ่งที่ควรทำเพื่อเพิ่มปริมาณการค้าคือต้องมีการปรึกษากันในเรื่องนี้โดยเร็ว”
ทั้งนี้เมืองเมียววดีในรัฐกะเหรี่ยงเป็นด่านตรวจที่ใหญ่ที่สุดของด่านตรวจที่เป็นทางการ 5 แห่งของการค้าตามพรมแดนเมียนมากับไทย ในแต่ละวัน จะมีรถบรรทุกวิ่งจากไทยผ่านด่านนี้ประมาณ 150-200 คัน
เขาให้ข้อมูลว่า “การค้าตามชายแดนมีปริมาณมาก การส่งเสริมสินค้าจากผลผลิตการเกษตรในวิธีนี้จะช่วยหนุนให้การค้าแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้เขายังเสริมว่าอีกหนทางหนึ่งที่จะส่งให้การค้าระหว่างเมียนมากับไทยบรรลุเป้าหมายคือ เมียนมาต้องพิจารณาเรื่องระบบการส่งออกไปขายใหม่ เนื่องจากการค้าตามพรมแดนจีน-เมียนมาเป็นเรื่องผิดกฎหมายในจีน ในขณะที่สินค้าจากไทยเข้าถึงได้สะดวกขึ้น
“หากมีการคลายกฎระเบียบเพื่อให้เราส่งออกสินค้าจากไทยไปขายใหม่ในมณฑลยูนนานได้ จะเป็นหนึ่งในกลยุทธการค้าที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ค้ามากยิ่งขึ้น”
แต่ในเวลาเดียวกัน การอาละวาดของการลักลอบขนสินค้าเถื่อนจะทำให้เป้าหมายการค้าที่ทะเยอทะยานนี้ถูกถ่วงให้ล่าช้าลง
นายหม่อง หม่อง ลาย รองประธานสหภาพสมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรม ให้ความเห็นว่า “ข้อมูลจากไทยในตอนสิ้นปีจะสูงกว่าข้อมูลของเมียนมา เนื่องจากยังมีการค้าของเถื่อนตามพรมแดนอยู่ เราต้องดูแลจัดการในเรื่องนี้”
อย่างเช่น ถ้าอ้างอิงจากตัวเลขของเมียนมา มูลค่าการนำเข้าสินค้าผ่านด่านแม่สอดไปเมืองเมียววดีจากเดือนเม.ย. ถึงพ.ย.2558 สูงถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 14,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 198 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 6,930 ล้านบาทในปี 2557 แต่ในทางตรงกันข้าม ข้อมูลจากสื่อไทยแสดงว่า ใน 10 เดือนแรกของปี 2558 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 6,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 230,300 ล้านบาท
นายหม่อง หม่อง ลาย สรุปว่า “สินค้าจากไทยมีคุณภาพสูงกว่าประเทศอื่นๆในอาเซียน และจากการค้าตามพรมแดนที่เป็นอยู่ ผมเชื่อว่าเราจะเพิ่มปริมาณการค้าให้สูงกว่านี้ได้อีกมาก ถ้าเราไปในทิศทางที่ถูกต้องในเชิงกลยุทธ์”