เวียดนามจ่อลงนามข้อตกลง “ทีพีพี” ก.พ.นี้
เวียดนามคาดหวังลงนาม “ทีพีพี” หรือความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership)–TPP กับอีก 11 ประเทศภายในช่วงต้นเดือนก.พ.นี้ หวังนำไปสู่กระบวนการเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อสรุปผลบังคับใช้เป็นข้อตกลงให้ได้โดยเร็วที่สุด
สื่อมวลชนท้องถิ่นกระบอกเสียงรัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนาม และนายหวู่ ฮอย ฮวง รมว.กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม ประกาศถึงการประชุมคณะรัฐบาลเวียดนามตกลงกันพิจารณาลงนามข้อตกลงทีพีพี เพื่อเร่งให้เกิดความเป็นไปได้ที่จะสามารถบังคับใช้ข้อตกลงทีพีพีให้ได้ภายในปี 2561
การลงนามยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงทีพีพีของเวียดนาม ถือเป็นก้าวสำคัญก่อนจะมีการให้สัตยาบันยอมรับโดยสภานิติบัญญัติของเวียดนามกับชาติสมาชิกที่เข้าร่วมข้อตกลงทีพีพีอีก 11 ชาติ ได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไน แคนนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สหรัฐฯ สิงคโปร์ และเวียดนาม
สื่อมวลชนท้องถิ่นของเวียดนามรายงานอีกว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจะลงนามยอมรับให้สัตยาบันข้อตกลงทีพีพีภายในเดือนมิ.ย.นี้ หรือหลังจากนั้น
ส่วนเว็บไซด์ข่าวหนังสือพิมพ์เจแปน ไทม์ รายงานระบุ ชาติสมาชิกทีพีพี ต่างก็มีแผนลงนามยอมรับข้อตกลงเงื่อนไขทีพีพีกันในช่วงเดือนก.พ.นี้ด้วย ทั้งนี้ข้อตกลงทีพีพีจะไม่เกิดผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติ นอกเสียจากว่าชาติสมาชิกอย่างน้อย 6 ประเทศ ซึ่งมีผลิตผลมวลรวมภายในภูมิภาค หรือจีดีพี รวมกันมากถึง 85% ต้องยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงนี้เสียก่อน
อย่างไรก็ตาม รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม และการค้าของเวียดนาม กล่าวแสดงความกังวลถึงกรณีที่รัฐบาลเวียดนามยังไม่สนับสนุนหรือหาข้อมูลให้อย่างเพียงพอต่อเหล่าธุรกิจในท้องถิ่นเพื่อเตรียมความพร้อมแข่งขัน หรือร่วมงานกับบริษัทข้ามชาติ
หนึ่งในปัญหาสำคัญคือ การได้รับข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับรายละเอียดเงื่อนไขข้อตกลงทีพีพี โดยผลสำรวจของสถาบันวิจัยด้านการพัฒนาธุรกิจ PACE and the Institue for Research on Educational Development พบว่า นักธุรกิจเวียดนามมากถึง 40.9% ยังไม่รู้อะไรมากมายเกี่ยวกับข้อตกลงทีพีพี
รมว.เวียดนามกล่าวอีกว่า เหล่าสมาชิกข้อตกลงทีพีพี ต่างเห็นพ้องให้เวลาเวียดนามเตรียมความพร้อมทั้งหลายแหล่ ก่อนให้ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ภายในปี 2561 ซึ่งจะช่วยให้ภาคธุรกิจของเวียดนามมีศักยภาพความพร้อมรับการแข่งขันและเข้าร่วมมากขึ้น
ทั้งนี้ข้อตกลงทีพีพี คือกลุ่มการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมเศรษฐกิจโลกมากราว 40% คาดว่า การเข้าร่วมข้อตกลงทีพีพีของเวียดนามจะก่อเกิดการขยายตัวของผลิตผลมวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ของเวียดนามเพิ่มจาก 23,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 เป็น 33,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2568 และเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าของเวียดนามเป็น 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2568 เช่นกัน