อินโดนีเซียพร้อมแข่งขันเออีซี
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด หรือ “โจโควี่” ของอินโดนีเซียแถลงว่าอินโดนีเซียควรพร้อมที่จะแข่งขันในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเปิดฉากในเดือนม.ค.นี้ ถึงแม้จะมีกลุ่มทุนธุรกิจในหลายประเทศแสดงความกังวลถึงความสามารถในการแข่งขันและผลิตภัณฑ์กับสินค้าโภคภัณฑ์จากประเทศเพื่อนบ้านจะหลั่งไหลเข้ามาในประเทศของตัวเอง
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ประธานาธิบดีโจโควี่ กล่าวว่า ผู้ประกอบการธุรกิจจำนวนมากในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ต่างแสดงความกังวลว่าประเทศของตนจะเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ และสินค้าโภคภัณฑ์จากอินโดนีเซียที่ไหลทะลักเข้ามา ดังนั้น หลายประเทศจึงเชื่อว่าอินโดนีเซียน่าจะได้ประโยชน์จากการเริ่มต้นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนี้
ประธานาธิบดีของอินโดนีเซียได้ไปร่วมในการประชุมอย่างเป็นทางการที่สมาคมวิศวกรอินโดนีเซีย และมีการเผยแพร่คำพูดให้สื่อจากสำนักประธานาธิบดี โดยเขาได้กล่าวว่า
“จะเริ่มเข้าสู่เออีซีในอีก 2 สัปดาห์นี้แล้ว หลายคนถามผมว่าประเทศเราพร้อมหรือยัง”
“ทำไมเราถึงต้องกลัวด้วย” เขาได้กล่าวถึงกุญแจสำคัญที่จะทำให้อินโดนีเซียคว้าชัยชนะในการแข่งขันนี้ นั่นคือโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้นรัฐบาลจึงดำเนินการเพิ่มการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ โดยมีมูลค่ารวมสูงถึง 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 770,000 ล้านบาท (35 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ)
เขาเน้นว่า “เราถอยหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว เราไม่ควรชักช้าอีกต่อไป สิ่งที่เราลงมือทำไปแล้วและจะทำต่อไป ล้วนอยู่ในความสนใจของประชาชน”
เขายกตัวอย่างประกอบว่า ปัจจุบัน อินโดนีเซียมีทางหลวงที่เก็บค่าผ่านทางถึง 800 กิโลเมตรแล้ว และกำลังพัฒนาก่อสร้างทางหลวงเพิ่มอีก 1,000 กิโลเมตรในอีก 5 ปีข้างหน้า รัฐบาลยังมีโครงการพัฒนาสร้างรถไฟนอกเกาะชวา และสนับสนุนการแสวงหาแหล่งพลังงาน โดยได้มีการผ่อนคลายกฎระเบียบในการขอใบอนุญาตให้กับนักลงทุน
เขากล่าวว่า เขาเข้าใจถึงความลังเลสงสัยที่ประชาชนมีต่อศักยภาพของรัฐบาลในการบริหารจัดการโครงการต่างๆ เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีหลายโครงการที่วางแผนไว้แล้ว แต่ก็ไม่ได้สานต่อให้เสร็จสมบูรณ์ตามแผน
เขาได้เล่าถึงประสบการณ์ของเขาในการประกาศแผนพัฒนาโครงการรถไฟในเกาะสุมาตราว่า “บางคนถามผมว่า จริงไหมครับ อย่าหยุดกลางคันอีกนะ โครงการนี้เริ่มวางแผนมาถึง 30 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำเสียที” ประธานาธิบดีโจโควี่กล่าวถึงความไม่พอใจของประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นั่น
นอกจากนี้เขายังได้กล่าวต่ออีกว่า อินโดนีเซียควรเตรียมพร้อมจากการยอมรับการเข้าเป็นสมาชิกของประเทศหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) และพร้อมที่จะแข่งขันในกลุ่มประเทศที่กว้างขึ้น คือ ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ เวียดนาม และสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโจโควี่ทราบดีว่า มีประชาชนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มทีพีพีนี้ แต่เขาได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นสำหรับชาวอินโดนีเซียในการเตรียมพร้อมเพื่อแข่งขันในตลาดโลก เขากล่าวสรุปว่า “วิสัยทัศน์ของเราคือเราควรพร้อมในการแข่งขัน เราควรมีความกล้าที่จะเผชิญกับการแข่งขัน”