ต่างชาติแห่ลงทุนเวียดนาม
เว็บไซต์นสพ.ถานห์ เหนียน นิวส์ของเวียดนาม รายงานเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. คาดการณ์ว่า ยอดการลงทุนจากต่างประเทศวิ่งเข้าเวียดนามปีนี้ อาจจะทุบสถิติซึ่งเป็นผลจากการผ่อนคลายกฎระเบียบเข้มงวดการลงทุน และการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาฉกฉวยประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี “ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี)”
โดยนายบุย กว่าง วินห์ รมว.การวางแผน และการลงทุนของเวียดนาม เปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ หรือเอฟดีไอ ในรอบปี 2558 น่าจะอยู่ราว 14,000 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่าปีที่แล้ว 1,500 ล้านดอลลาร์ “การปรับเปลี่ยนปัจจัยแวดล้อมด้านการลงทุน และข้อตกลงการค้าต่างๆ มีส่วนช่วยดึงดูดบรัทต่างๆ พากันย้ายจากจีนและประเทศอื่นๆในภูมิภาคเข้ามาที่เวียดนามมากขึ้น” นายนวินห์ กล่าวเสริม
ด้านข้อมูลจากธนาคารโลก (เวิลด์แบงค์) ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของยอดเอฟดีไอของเวียดนามมีขึ้นขณะที่ตัวเลขเอฟดีไอของกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น ฟิลิปปินส์ ลดน้อยลง สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มสนใจเวีดยนามมากขึ้นตามลำดับ ขณะเดียวกันเวียดนามยังอยู่ในสถานะประเทศผู้ที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากกลุ่มสมาชิกทีพีพีทั้ง 12 ประเทศที่จะช่วยส่งเสริมการส่งออกด้วยการลดภาษีอากรขาเข้าในสินค้าหลายรายการรวมทั้งรองเท้า อาหารทะเลและเสื้อผ้า โดยทีพีพีอาจช่วยให้จีดีพีเวียดนามโตขึ้นราว 8% และส่งเสริมตัวเลขการส่งออกอีก 17% ภายในอีก 20 ปีข้างหน้า
ขณะที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี ระบุคาดการณ์ด้วยว่าปีนี้ เศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโตมากที่สุดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 6 ประเทศของอาเซียน และคาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโตอย่างมากตลอดไตรมาสที่สองของปี โดยได้ปัจจัยหนุนอย่างการบริโภคภายในที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การผลิตมุ่งส่งออก และยอดเม็ดเงินเอฟดีไอ
ด้านนายตรินห์ เหวียน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านกลุ่มประเทศเศรคษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชียประจำสถาบัน “นาติซิกซ์ เอสเอ” ระบุว่าการที่เงินทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องผ่านเอฟดีไอ ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อเวียดนามที่กำลังพยายามนำเข้าสินค้าให้มากขึ้นเพื่อนำมาผลิตในระดับอุตสาหกรรม และนี่ถือเป็นแนวทางที่เสถียรมากขึ้นเพื่อเข้าถึงเงินลงทุนในระดับที่เวียดนามต้องการตามสถานะการพัฒนาปัจจุบัน