เศรษฐกิจเวียดนามโต 6.5%
ธนาคารโลกรายงานว่า จีดีพีของเวียดนามเติบโตแตะ 6.5% ในปีนี้ ถึงแม้จะต้องเผชิญกับความผันผวนจากสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกก็ตาม
นางวิคตอเรีย กว๊ากวา ผู้อำนวยการบริหารจากธนาคารโลกประจำเวียดนาม กล่าวว่า จากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ภาคการส่งออกที่แข็งแรง เงินเฟ้อต่ำ และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยบวกให้เวียดนามมีรากฐานที่มั่นคงเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะกลางที่ยังพัฒนาต่อไปได้อีก
จากรายงานของธนาคารโลก สถานะทางเศรษฐกิจมหภาคของเวียดนาม ช่วยค้ำจุนเสถียรภาพให้กับระบบธนาคารของประเทศ
ทั้งนี้ภาคการส่งออกของเวียดนามยังคงแข็งแกร่ง โดยมูลค่าการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสหกรรมการผลิตเพื่อส่งออก โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีสูง เช่น โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลในรายงานว่า กรอบการดำเนินงานระยะกลางสำหรับเวียดนามยังคงเป็นไปในด้านบวก โดยให้รักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจ และคงอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำต่อไป อย่างไรก็ตามกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจที่ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโอกาสในการเติบโตได้ และงบประมาณที่ตึงตัวอาจส่งผลลบต่อการประคองหนี้สาธารณะได้
นายฟาม มิน ดุ๊ก ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐศาสตร์จากธนาคารโลก ได้ให้ความเห็นว่า ข้อตกลงยุทธศาสตร์หุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) จะช่วยนำผลประโยชน์มาสู่เวียดนาม หลังจากการเปิดตลาดการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เกิดขึ้น
ทั้งนี้ในบรรดาประเทศสมาชิกทีพีพี เวียดนามซึ่งเป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวประชากรต่ำที่สุด กลับจะเป็นประเทศที่ได้ เปรียบในการแข่งขันทางการค้ามากที่สุด ในส่วนอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้แรงงานคนเป็นหลัก
นอกจากนี้ยังการคาดการณ์ว่า ผลประโยชน์ที่ได้จากการเป็นประเทศสมาชิกทีพีพี จะช่วยหนุนตัวเลขจีดีพีของเวียดนามถึง 8% ช่วยตัวเลขการส่งออกถึง 17% และเพิ่มมูลค่าทุนเรือนหุ้นถึง 12% ในอีก 20 ปีข้างหน้า ถึงแม้การปฏิบัติตามกลยุทธ์จะไม่เป็นไปตามเป้าทั้งหมด แต่ผลที่ได้รับจากทีพีพีก็ยังคงเป็นไปในด้านบวก
นายซันดีพ มหาจัน นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกอีกคนให้ความเห็นว่า“ผลที่ได้จากทีพีพีจะไม่ได้มีเพียงแค่การเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่เท่านั้น แต่จะเป็นหลักสำคัญในการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจของเวียดนามในระยะต่อไปอีกด้วย”