ทีพีพีช่วยสิงคโปร์เสียภาษีถูกลง
ข้อตกลงของทีพีพี ทำให้ธุรกรรมการเงินของสิงคโปร์เสียภาษีถูกลง1,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 2.2 ล้านบาท
เว็บไซต์ข่าวเอเชียวัน.คอม ของสิงคโปร์รายงานเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ว่า นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุงของสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ หรือจี20 วันสุดท้ายที่เมืองอันทัลยา ของตุรกีเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่าสหรัฐฯ น่าจะให้สัตยาบันรับรองข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือทีพีพีภายในหนึ่ง หรือสองปีข้างหน้านี้ หรือหลังจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. ปีหน้า และจะทำให้สิงคโปร์ประหยัด ไม่ต้องจ่ายภาษีศุลกากรต่อปีมากถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 25,257.34 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าไม่เลวเลย ขณะที่กฎเกณฑ์ด้านอื่นๆของทีพีพี อย่างเช่น ภาคบริการวิชาชีพ (เช่น บริการกฎหมาย และบริการด้านภาษี เป็นต้น) หรือกฎระเบียบการลงทุน จะทำให้สิงคโปร์ได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน
นายลี กล่าวเน้นย้ำด้วยว่า ทีพีพีไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ด้วย ส่วนข้อซักถามที่ว่าสิงคโปร์ที่เป็นสังคมหลากวัฒนธรรม และศาสนาควรเผชิญหน้ากับพวกมุสลิมหัวรุนแรงสุดโต่งอย่างไร ผู้นำสิงคโปร์เผยว่า กลุ่มหัวรุนแรงเหล่านี้ถือว่าไม่ใช่อิสลามที่แท้จริงตามแนวทางที่คนมุสลิมส่วนใหญ่เป็น และเป็นการตีความศาสนาแบบผิดๆ พวกคนที่ไปเข้าร่วมกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอสที่ซีเรีย และอิรัก ประกาศตนว่าเป็นมุสลิม แต่จริงๆ แล้วรู้เกี่ยวกับศาสนาน้อยมาก และกระทำสิ่งที่ไม่ดีในนามศาสนา ขณะที่เหล่าผู้นำศาสนาในสิงคโปร์โดยเฉพาะผู้นำมุสลิม ต่างยืนยันท่าทีชัดเจนประณามกลุ่มไอเอสว่าเป็นพวกตีความศาสนาผิดๆ และกระทำการไม่ใช่มนุษย์มนา อันเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเรายึดจุดยืนชัดเจน และดำรงความเป็นเอกภาพในสิงคโปร์ จากนั้นนายลีเดินทางกลับสิงคโปร์ในวันเดียวกันนี้เพื่อเดินทางต่อไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกที่กรุงมะนิลา ของฟิลิปปินส์ช่วงวันที่ 18-19 พ.ย.58
ทั้งนี้การเจรจาข้อตกลงทีพีพีได้ข้อสรุปกันเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังต้องให้มีการให้สัตยาบันรับรองในหมู่สมาชิก 12 ประเทศ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย บรูไนฯ แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ สหรัฐฯ และเวียดนาม ขณะที่สิงคโปร์ทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีของเก่าอยู่แล้วกับสมาชิกทีพีพีทั้งหมดยกเว้นแค่เม็กซิโก และแคนาดา ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เผยว่า กลุ่มประเทศทีพีพีถือเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับธุรกิจของสิงคโปร์ ขณะเดียวกันกลุ่มทีพีพียังมีประชากรรวมกันราว 800 ล้านคน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีรวมราวๆ 30 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 40% ของจีดีพีโลก