ฟิลิปปินส์ยัดลูกปืนใส่กระเป๋านักท่องเที่ยว
คดีการยัดกระสุนปืนใส่กระเป๋าผู้โดยสารเพื่อรีดไถเงินกำลังสร้างบรรยากาศความหวาดกลัวให้นักเที่ยวงเที่ยวที่กำลังเดินทางเข้าฟิลิปปินส์ “แมนนี ปาเกียว” เสนอช่วยทางกฎหมายฟรีกับผู้ตกเป็นเหยื่อ
สำนักข่าวแชนแนลนิวส์เอเชียของสิงคโปร์ รายงานเมื่อวันที่ 9พ.ย.ว่า ผู้โดยสารหลายคน เปิดเผยว่าได้ตกเป็นเป้ากลโกงรีดไถเงินที่พนักงานรักษาความปลอดภัยสนามบินลอบยัดลูกกระสุนใส่กระเป๋าเดินทาง จากนั้นจะถูกหว่านล้อมให้จ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เพราะการครอบครองกระสุนปืน (จริง) ในฟิลิปปินส์ เป็นความผิดคดีอาญา บางกรณี ผู้โดยสารหลายคนต้องจ่าย 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว350บาท) จนถึง 640 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว22,400บาท) ในรูปของเงินใต้โต๊ะจึงรอดมาได้
โดยหนึ่งคนที่ตกเป็นเหยื่อคือนางกลอเรีย อาร์ติเนซ ต้องตกเครื่องบินกลับไปทำงานที่ฮ่องกง เพราะถูกควบคุมตัวหลายวันหลังมีกระสุนปืนในกระเป๋าถือโดยไม่รู้สาเหตุ เหยื่ออีกคนคือนายคาซึโนบุ ซาคาโอโตะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ถูกจับหลังมีกระสุนปืน 2 ลูกอยู่ในกระเป๋า และยังมีชาวอเมริกัน 2 คน ถูกพบมีกระสุนปืนในกระเป๋าเช่นกันขณะผ่านเครื่องตรวจจับโลหะที่สนามบินนานาชาตินินอย อาคิโน ในกรุงมะนิลา โดย 1 ในนี้ ถูกจับก่อนได้ประกันตัว ส่วนอีกคนมีข่าวว่ายอมจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้เจ้าหน้าที่สนามบินเพื่อให้ขึ้นเครื่องได้
ด้านสภาผู้แทนฯ ฟิลิปปินส์เตรียมเปิดสอบสวนเรื่องนี้ซึ่งกำลังกลายเป็นปัญหาระดับชาติ ขณะที่สมาคมแรงงานต่างประเทศฟิลิปปินส์ ขู่จะลดส่งเงินรายได้กลับประเทศเพื่อกดดันรัฐบาลให้เร่งปราบปราม หรือแม้แต่นักการเมืองและยอดนัก มวยคนดังอย่าง แมนนี ปาเกียว ยังเสนอช่วยเหลือทางกฎหมายฟรีให้กับผู้ตกเป็นเหยื่อ
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สนามบินยังปกป้องตัวเอง เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นกรณีเฉพาะราย ต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบโดยเฉพาะหนึ่งในผู้เป็นเหยื่อ ได้ยอมรับภายหลังว่าลูกกระสุนเป็นของตัวเอง
ส่วนโฆษกกลุ่มเอวิเอชั่น เซคิวริตี้ กรู๊ป อธิบายว่าโดยทั่วไปจะมีเครื่องสแกนอยู่ 2 จุด ภายในสนามบินนานาชาติ 3 แห่งของฟิลิปปินส์เช่นเดียวกับสนามบินภายใน ส่วนการตรวจพบกระสุนส่วนใหญ่เกิดที่เครื่องสแกนจุดแรก จึงยากที่พนักงานจะใส่อะไรเข้าไปในกระเป๋าได้ อีกทั้งผู้โดยสารก็เป็นคนเดียวที่สัมผัสกับกระเป๋าก่อนเข้าเครื่องสแกน เว้นแต่จะมีจ้างเด็กยกกระเป๋า เรื่องฉาวนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนมีประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ซึ่งผู้นำจาก 20ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมรวมทั้งประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ต้องเพิ่มดูแลแขกวีไอพีเหล่านี้เป็นพิเศษไม่ให้มีปัญหาด้านความปลอดภัย