เมียนมาเริ่มหาเสียงก่อนเลือกตั้ง
เลือกตั้งในเมียนมากำลังคึกคัก เพราะใกล้วันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 พ.ย.นี้ คาดชาวเมียนมาจะให้กับการสนุบสนุน พรรค NLD ของ “อองชาน ซูจี”
การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเริ่มต้นขึ้นแล้วในเมียนมา โดยมีระยะเวลา 2 เดือนก่อนหน้าการเลือกตั้งที่เปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
นางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นผู้ชนะได้รับที่นั่งในสภามากที่สุด ในขณะที่มีการทำนายว่าจำนวนที่นั่งของผู้แทนจากพรรคทหารจะลดลง
ก่อนหน้านี้นางอองซาน ซูจีเป็น ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร แต่ถูกกีดกันจากกฏหมายในรัฐธรรมนูญ ไม่ให้เธอได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีพรรคการเมืองมากกว่า 90 พรรค ได้ร่วมลงชิงชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้มากเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ตัวแทนพรรครัฐบาลมีชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2555
ทั้งนี้ในวิดีโอที่เผยแพร่ในเพจเฟซบุ๊กของพรรค อองซาน ซูจี ผู้ชนะรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ได้เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งอย่างอิสระ และยุติธรรม “เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ ที่ประชาชนจะได้มีโอกาสอย่างแท้จริง ที่จะนำการเปลี่ยน แปลงอย่างแท้จริงกลับคืนมา” หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) เธอกล่าว “นี่เป็นโอกาสที่เราไม่อาจจะปล่อยให้หลุดลอยไป”
ด้วยความกังวลว่า ทางทหารอาจจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล เธอจึงกล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปลี่ยนผ่านของประชาธิปไตยอย่างนุ่มนวล และราบรื่น เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกตั้งที่โปร่งใสและยุติธรรม”
ในรัฐธรรมนูญของเมียนมา หรือพม่านั้น ได้ให้ที่นั่งในสภาแก่ทหารอย่างน้อย 25% ของที่นั่งทั้งหมด ดังนั้นพรรค NLD และพรรคที่เป็นพันธมิตรพรรคอื่นๆ จะต้องชนะอย่างน้อย 2 ใน 3 ของที่นั่งที่เหลือในสภา จึงจะมีโอกาสได้เลือกประธานาธิบดีคนต่อไป
อย่างไรก็ตามหากพรรค NLDได้รับชัยชนะเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภา ทางกองทัพก็จะยังมีสิทธิออกเสียงคว่ำโหวตเหนือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในรัฐธรรมนูญได้อยู่ดี และจะยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจในการบริหารประเทศต่อไป
ครั้งสุดท้ายที่พรรค NLD ร่วมลงเลือกตั้งในการเลือกตั้งของประเทศในปี 2533 และได้รับชัยชนะอย่างถล่มทะลาย ทางทหารก็ปฏิเสธไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในครั้งนั้น และเป็นสาเหตุให้อองซาน ซูจีถูกคุมขังอยู่ในบ้านของเธอเป็นเวลายาวนานถึง 12 ปี
ทั้งนี้ประกาศบอยคอตการเลือกตั้งในปี 2553 ที่พรรคสหสามัคคี และการพัฒนา (USPD) เป็นผู้ชนะ เพราะมีข้อครหาว่า เป็นการเลือกตั้งที่มีการทุจริตมากมาย และไม่โปร่งใส อย่างไรก็ตามหลังจากนางอองซาน ซูจี ได้รับการปล่อยตัว และพรรคของเธอเข้าร่วมในการเลือกตั้งในปี2555 ทางพรรคก็มีชัยชนะ ได้รับที่นั่งในสภาถึง 43 จาก 44 ที่นั่ง รวมทั้งตัวเธอเองด้วย
สำหรับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเริ่มขึ้นในเวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือน โดยการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.นี้