คอรัปชั่นเหมืองหยกในพม่า
นักการเมืองในเมียนมา ฮุบเหมืองหยกในคะฉิ่น แบ่งผลประโยชน์หลายหมื่นล้านให้พวกพ้องลงตัว แต่ไม่เหลียวแลคนท้องถิ่น
องค์กร “โกลบอล วิท’นิส” (Global Witness) ซึ่งเป็นองค์กรที่ตรวจสอบปัญหาการคอรัปชั่น สำนักงานตั้งอยู่ในกรุงลอนดอนของอังกฤษเผยแพร่รายงานจำนวน 128 หน้า เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ระบุว่า อุตสาหกรรมหยกอันลึกลับของเมียนมาเมื่อปีที่แล้ว มีมูลค่า สูงถึง 31,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.085 ล้านล้านบาท) มากกว่าข้อมูลของภาครัฐซึ่งระบุว่าอยู่ที่ 3,400 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเมียนมา แต่ผลกำไรส่วนใหญ่จากอุตสาหกรรมหยกกลับตกอยู่ในมือกองทัพ และเหล่าอดีตผู้นำทหารหลายคนรวมทั้งครอบครัวของพล.อ.อาวุโส ตาน ฉ่วย อดีตผู้นำรัฐบาลเผด็จการทหาร (ฮุนตา) แทนที่จะถูกส่งเข้าคลังหลวง
ทั้งนี้องค์กรโกลบอล วิท’นิส คำนวณมูลค่าการทำเหมืองหยกในเมียนมาโดยยึดข้อมูลจากหลายปัจจัย อย่างเช่นข้อมูลการผลิตของรัฐบาลเมียนมา ราคาขายอย่างเป็นทางการ และยังมีรายงานด้านอุตสาหกรรมเปิดเผยด้วยว่าอัญมณีถูกลักลอบนำออกนอกประเทศเมียนมาโดยตรงถึง 80% ทั้งนี้เหมืองหยกซึ่งอยู่ในมือของกองทัพและกลุ่มคนชั้นสูงระหว่างปีท้ายๆ ของรัฐบาลเผด็จการทหาร ยังเป็นเรื่องลับที่ยากรู้ข้อเท็จจริงแม้ได้มีการปฏิรูปหลายช่องทางของรัฐบาลกึ่งพลเรือนที่ขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2554 อย่างไรก็ดีรัฐบาลเมียนมายังไม่แถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งนี้แหล่งแร่หยกคุณภาพดีที่สุดในโลกอยู่ที่เมืองป๊ะกั้นหรือผากั้นของรัฐคะฉิ่น ทางภาคเหนือเมียนมาติดพรมแดนจีน โดยยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญของกลุ่มกบฎชาติพันธุ์คะฉิ่น “กองทัพเอกราชคะฉิ่น” (เคไอเอ) ซึ่งยังเป็น 1 ใน 8 กลุ่มกบฏชาติพันธุ์ที่ยังไม่ยอมลงนามข้อตกหย่าศึกกับรัฐบาลเมียนมา นอกจากนี้หยกจากเมียนมา ซึ่งยังอยู่ภายในการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ถือว่าเป็นอัญมนีราคาแพงในจีนเพราะถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของคุณงามความดี และพลังอำนาจ ข้อมูลการนำเข้าของทางการจีนเมื่อปีที่แล้วพบว่ามูลค่าการนำเข้าอัญมณีจากเมียนมาที่ส่วนใหญ่เป็นหยกมีมากกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากกล่าวหาเหมืองหยกเป็นของกองทัพ และกลุ่มคนชั้นสูงแล้ว โกลบอล วิท’นิส ยังกล่าวหาว่าเหมืองหยกในเมียนมาเชื่อมโยงกับพวกพ่อค้ายาเสพติด และกลุ่มบริษัทของพวกพ้อง โดยยังเป็นมูลเหตุให้เกิดการสู้รบ ไล่ยึดพื้นที่ เหตุน้ำท่วม และดินถล่มในรัฐคะฉิ่นของเมียนมาด้วย