บรูไนบีบใช้มาตรการแก้วัยรุ่นอ้วน
การใช้ชีวิตประจำวันของกลุ่มวัยรุ่นบรูไนส่วนใหญ่กำลังก่อปัญหาโรคอ้วน ส่งผลเสียถึงอนาคตของชาติ ทำให้รัฐบาลต้องประกาศเพิ่มมาตรการเข้มงวดควบคุมพฤติกรรมของวัยรุ่น โดยกำหนดให้ผู้ปกครองเด็ก รวมถึงองค์กรที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ต้องกำหนดแนวทางให้เด็กๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่การบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตประจำวันให้ลดความเสี่ยงเผชิญโรคอ้วนให้มากขึ้น
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์บรูไน ไทม์ส รายงานอ้างข้อมูลวิจัยหัวข้อ “เยาวชนบรูไนกำลังใช้วิถีชีวิตอย่างไร้สุขภาวะที่ดี” โดยอ้างข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ภายใต้ผลสำรวจ “สุขภาวะของนักเรียนทั่วโลกประจำปี 2014” พบว่า วัยรุ่นบรูไนอายุระหว่าง 13-17 ปี กำลังประสบปัญหาโรคอ้วนมากถึง 52.6 เปอร์เซ็นต์ หรือวัยรุ่นมากกว่า 2 ใน 10 คนกำลังเผชิญภาวะโรคอ้วน
ผลการสำรวจข้อมูลชิ้นนี้ดำเนินการโดยศึกษาพฤติกรรมวัยรุ่น 2,599 คน จาก 38 โรงเรียนทั่วประเทศเมื่อช่วงปีที่แล้ว พบว่าวัยรุ่น 52.1 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับดื่มน้ำอัดลมอย่างน้อยวันละ 1 กระป๋อง หรือมากกว่านั้น
ส่วนกลุ่มทำกิจกรรมทางกายภาพ รวมถึงออกกำลังกายเฉลี่ยวันละ 60 นาที มีเพียง 12.7 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่วัยรุ่นเฉลี่ย 1 ใน 5 คนเท่านั้นที่บอกว่านิยมรับประทานผัก และผลไม้ตามสัดส่วนที่เหมาะสมในแต่ละมื้ออาหาร
จากผลสำรวจดังกล่าวทำให้รัฐบาลบรูไนต้องบังคับใช้มาตรการเพิ่มความเข้มงวดแก่ผู้ปกครอง และองค์กรชุมชนที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับเด็กๆ ตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน โรงเรียน สถานดูแลเด็ก รวมถึงหน่วยงานของภาครัฐทุกแห่ง และสื่อมวลชน ให้ติดตามสอดส่องดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น
นอกเหนือจากเพิ่มความเข้มงวดกวดขันเกี่ยวกับเครื่องดื่ม และอาหารที่ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพตามท้องตลาด เพราะหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปจะส่งผลเสียถึงพัฒนาการด้านทรัพยากรมนุษย์ของประเทศได้ในอนาคตภายใน 10 หรือ 15 ปี ทั้งทำให้เยาวชนเหล่านั้นต้องเผชิญความเสี่ยงเจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บนานาชนิด