อินเทอร์เน็ตฟิลิปปินส์ราคาถูกสุด
บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวในฟิลิปปินส์ให้ข้อมูลว่า สงครามกระหน่ำลดราคาทำให้ค่าบริการอินเทอร์เน็ตบนอุปกรณ์พกพามีราคาถูกลงเกือบครึ่งหนึ่งจากเมื่อ 3 ปีก่อน
Potpot Pinili วัย 41 ปีกล่าวว่า “ เดี๋ยวนี้การเข้าถึงข้อมูลมีราคาถูกลงกว่าเดิมมาก คุณสามารถใช้งานออนไลน์ได้เร็วขึ้นและด้วยราคาที่ถูกลง”
เขาและลูกค้าชาวฟิลิปปินส์ล้วนได้ประโยชน์จากการต่อสู้กันของ 2 บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ โดย PLDT Inc. และ Globe Telecom Inc. ต่างพยายามโน้มน้าวใจผู้บริโภคด้วยการลดราคาค่าบริการลงจนทำให้บริการเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตของฟิลิปปินส์มีราคาถูกที่สุดในเอเชีย ทั้งสองบริษัทจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อรับมือกับรายได้ที่ลดลงจากการโทรศัพท์และบริการฝากข้อความ
จากการต่อสู้ที่ดุเดือดทำให้ผลกำไรและมูลค่าหุ้นลดลง โดยบริษัท PLDT คาดการณ์ว่า ผลกำไรของบริษัทในปี 2559 จะต่ำที่สุดในรอบ 13 ปี และทำให้มีผลประกอบการแย่ที่สุดในดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของฟิลิปปินส์ในปีที่แล้ว ในขณะที่บริษัท Globe มีผลประกอบการแย่ที่สุดเป็นอันดับ 4 และรายได้ร่วงลงมาเป็นครั้งแรกใน 3 ปี
“ ฟิลิปปินส์มีผู้เล่นในตลาดอินเทอร์เน็ตแค่ 2 บริษัท และพวกเขาก็กำลังทำลายกันเอง” Karen Hizon นักวิเคราะห์ที่ UBS Group AG. ประจำกรุงมะนิลากล่าว โดยราคาค่าบริการอินเทอร์เน็ต 1 เมกาบิตมีราคาเพียง 0.1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ 1.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในจีน อ้างอิงจากข้อมูลของ UBS
โดยโปรโมชั่นของ Globe ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ Singapore Telecommunications Ltd., กระตุ้นให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น 12% เป็น 62.8 ล้านผู้ใช้งาน ในปี 2559 และ PLDT ซึ่งมีผู้ร่วมลงทุนคือ Nippon Telegraph and Telephone Corp ยังคงมีจำนวนผู้ใช้งานตามหลัง Globe
รายได้ของ Globe เพิ่มขึ้น 6% ในปีที่แล้วคือสูงถึง 120,000 ล้านเปโซ โดยเป็นรายรับจากข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต 34,600 ล้านเปโซ ผลกำไรลดลง 4% อยู่ที่ 15,900 ล้านเปโซ เพราะมีการใช้จ่ายเงินทุนไปกับการขยายเครือข่ายสัญญาณ ทางบริษัทคาดการณ์ว่า ตลาดจะยิ่งมีการแข่งขันสูงขึ้นในปีนี้
ทาง PLDT คาดการณ์ว่ารายได้สุทธิลดลงเหลือ 20,700 ล้านเปโซ โดยในปี 2559 ขณะที่รายได้ลดลง1% เป็น 168,700 ล้านเปโซ อ้างอิงจากการประเมินของนักวิเคราะห์จากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
อย่างไรก็ตาม หุ้นของบริษัท Globe ดีดกลับขึ้นมาในปีนี้ และกำลังซื้อขายอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาถึง 19% ทำให้บริษัทเป็นหุ้นที่ดีที่สุดในตลาดหุ้นในประเทศ ในขณะที่หุ้นของ PLDT ซึ่งดิ่งฮวบลงไปถึง 34% เมื่อปีที่แล้ว ไต่ระดับขึ้นมาถึง 6.7% ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ช่วงเปลี่ยนผ่านของทั้งสองบริษัทยังมีหนทางอีกยาวไกล อ้างอิงจากความเห็นของ Riche Levin Lim นักวิเคราะห์จาก BPI Securities Corp
“ เป็นเรื่องสำคัญที่จะจับตามองว่า บรรยากาศในการแข่งขันจะเป็นอย่างไรต่อไปในไตรมาสที่จะถึงนี้” เขากล่าว.