สิงคโปร์หนุนลงทุนเพิ่มในกัมพูชา – ลาว

ประธานาธิบดีโทนี ตัน เค็ง ยัม แห่งสิงคโปร์กล่าวว่า โอกาสมีอยู่มากมายสำหรับบริษัทของสิงคโปร์ในกัมพูชาและลาว ผู้นำของทั้งสองประเทศต่างสนับสนุนให้สิงคโปร์เพิ่มการค้าและการลงทุนให้มากขึ้น
เพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักธุรกิจสิงคโปร์ลงทุนในตลาดของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น ประธานาธิบดีของสิงคโปร์ได้กล่าวว่า “ นักธุรกิจที่มาที่นี่ต้องมีความพร้อมในระยะยาว และทำงานหนักในช่วงนี้ก่อนที่สถานการณ์จะเข้าที่เข้าทาง” ประธานาธิบดีของสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์กับสื่อสิงคโปร์หลังจากสิ้นสุดการเดินทางไปเยือนกัมพูชาและลาว
โดยเขากล่าวว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งสองประเทศล้วนเป็นเพื่อนเก่าของสิงคโปร์ และการมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทของสิงคโปร์ ทั้งกัมพูชาและลาวล้วนมีตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 7% ต่อปีในช่วง 2-3 ปีล่าสุด
เขากล่าวว่า “ เรามีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเราควรใช้ความได้เปรียบนี้ให้มีมูลค่าสูงสุด ธุรกิจส่วนใหญ่ที่น่าสนใจในกัมพูชาและลาวล้วนเหมาะสมกับความเชี่ยวชาญของเรา”
นอกจากนี้ ทั้งกัมพูชาและลาวต่างมีความต้องการจะพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งสิงคโปร์สามารถให้ความช่วยเหลือได้จากประสบการณ์ที่มีมายาวนาน
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสิงคโปร์ หรือดร.ตันได้ไปพบกับผู้นำทั้งสองประเทศในกรุงพนมเปญและกรุงเวียงจันทน์ และยังได้ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างนครวัดที่เมืองเสียมเรียบในกัมพูชาและเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของลาว
ธุรกิจที่น่าสนใจและยังมีโอกาสเปิดกว้างสำหรับสิงคโปร์มีทั้งการบริหารจัดการโรงแรม การดูแลสุขภาพ โลจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ และการแปรรูปอาหาร
ประธานาธิบดีตัน ยังได้กล่าวว่า “ สิงคโปร์โชคดีที่ตั้งอยู่ในอาเซียน ซึ่งมีประชากรถึง 600 ล้านคน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของโลก และสิงคโปร์สามารถดึงความได้เปรียบนี้มาใช้ได้ ”
“ โลกในวันข้างหน้าอาจไม่มั่นคง แต่ด้วยเจตนาที่ดีที่มีระหว่างรัฐบาลของเราและผู้นำของเราในอาเซียนผมแน่ใจว่า เราจะมีหนทางที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง”
ดร.ตันยังกล่าวเสริมว่า กัมพูชาและลาวอยู่ในระดับการพัฒนาที่แตกต่างจากสิงคโปร์ แต่ต่างก็ยึดมั่นในหลักการของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการบูรณาการร่วมกันจะส่งผลดีต่อสมาชิกทุกประเทศ
“ เราเป็นผู้รับราคา ไม่ใช่แหล่งผู้ผลิต เราต้องปรับตัวเองให้เข้ากับอาเซียน กับเอเชีย และกับโลก ด้วยวิธีการเช่นนั้น เราจะสร้างผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งเกินหน้าขนาดประเทศเล็กๆและประชากรน้อยของเราได้ ”