มาเลเซียพบคนลักลอบเข้าประเทศเกือบทุกคืน
ความพยายามลักลอบเข้าเมืองมาเลเซียเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางการใช้เทคโนโลยีระบบเรดาร์ตรวจเจอกลุ่มผู้ต้องสงสัยพยายามลักลอบเข้าเมือง “เกือบทุกคืน”
สำนักงานปกป้องทะเลมาเลเซีย (MMEA) เปิดเผยข้อมูลระบุ นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปี 2020 หลังการเปิดปฏิบัติการ “Benteng” เป้าหมายเพื่อหยุดยั้งสกัดกั้นเครือข่ายการลักลอบเข้าเมืองมาเลเซียทางทะเล ทางการตรวจพบเป้าหมายต้องสงสัยแล้วมากกว่า 1,100 ครั้ง หรือเฉลี่ยมีความพยายามลักลอบเข้าเมืองทางทะเลเกือบทุกคืน
รัฐบาลมาเลเซียใช้ระบบ “SWASLA” – Malaysian Maritime Sea Surveillance System หรือ ระบบเครือข่ายเรดาร์ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางทะเลตลอด 24 ชั่วโมง พบความเคลื่อนไหวผิดปกติตลอดน่านน้ำมาเลเซีย โดยเฉพาะด้านตะวันออกรัฐยะโฮร์ พบการเคลื่อนไหวนอกเขตน่านน้ำมาเลเซีย 689 ครั้ง เป้าหมายเรือต้องสงสัยพยายามมุ่งหน้าเข้าชายฝั่งมาเลเซีย โดยรัฐบาลมาเลเซีย ได้ประสานความร่วมมือกับรัฐบาลอินโดนีเซีย เพื่อหยุดยั้งกระบวนการลักลอบนำผู้คนเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เรือลำเลียงผู้พยายามลักลอบเข้าเมืองจากอินโดนีเซีย ประมาณ 50 คน ล่มกลางทะเลท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก ทางการมาเลเซียช่วยเหลือรอดชีวิตได้ 14 คน
นายโมฮิด ซูบิล ผู้อำนวยการสำนักงานปกป้องทะเลมาเลเซีย ระบุความพยายามลักลอบเข้ามาเลเซียทางทะเลเกิดขึ้นเกือบทุกคืน ทั้งๆที่สภาพอากาศคลื่นลมทะเลช่วงเวลานี้รุนแรง อาจก่อเกิดคลื่นสูงถึง 5 เมตร กระแสลมแรงมากกว่า 50 กม.ต่อชั่วโมง การเดินเรือท่ามกลางสภาพอากาศเช่นนี้เสมือนความพยายามฆ่าตัวตาย แต่เครือข่ายผู้พาคนลักลอบเข้าเมือง ไม่ใส่ใจปัญหานี้เพราะต้องการเพียงผลประโยชน์ จึงเกิดโศกนาฎกรรมกลางทะเลบ่อยครั้ง.