สิงคโปร์คาดฉีดวัคซีนโควิด-19 จบสิ้นปีนี้
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. รมว.สาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า สิงคโปร์ยังคาดการณ์ว่าจะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ แม้จะต้องมองหาแหล่งวัคซีนเพิ่มขึ้นเพราะซัพพลายวัคซีนทั่วโลกหายากขึ้น
จนถึงวันที่ 16 พ.ค. มีประชาชนในสิงคโปร์ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วอย่างน้อย 1.8 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรในประเทศ และมีประมาณ 1.2 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จากถ้อยแถลงในสภาของกานคิมยอง รมว.สาธารณสุข
สิงคปโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนเร็วที่สุดในเอเชีย แต่ยังคงตามหลังชาติตะวันตกอย่างสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร
“จำนวนวัคซีนทั่วโลกมีจำกัด และไม่เพียงในแง่ปริมาณ แต่ในแง่โลจิสติกส์ก็มีความท้าทาย ดังนั้น เราจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ทำได้คือการขยายและแสวงหาแหล่งวัคซีนที่หลากหลายขึ้น” รมว.กานระบุ
สิงคโปร์ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ – ไบโอเอนเทคและบริษัทโมเดอร์นา และจีนจัดส่งวัคซีนของบริษัทซิโนแวคไบโอเทคมาให้ 200,000 โดส แต่ทางการสิงคโปร์ยังไม่ได้อนุมัติรับรอง สิงคโปร์กำลังมองหาวัคซีนทางเลือกเพิ่ม และได้ทำข้อตกลงซื้อล่วงหน้า แต่รมว.กานระบุว่า ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้เนื่องจากเป็นข้อมูลสำคัญ
ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขระบุว่ากำลังมีการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกา
เขาชี้แจงว่า หากวัคซีนที่จัดซื้อมาถึงตามกำหนด สิงคโปร์จะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
และหากมีความจำเป็น สิงคโปร์มีแผนจะฉีดวัคซีนกระตุ้นให้ประชาชนเป็นเข็มที่ 3 หลังจากฉีด 2 เข็มเสร็จสมบูรณ์แล้วภายในปีนี้ หรือต้นปีหน้า
ทั้งนี้ สิงคโปร์ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ผู้มีอายุ 45 ปีขึ้นไป แต่จะเชิญชวนให้ผู้ที่มีอายุน้อยกว่านั้นมารับวัคซีนตั้งแต่ช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนพ.ค.นี้
สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ และยังมีการติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ด้วย ทำให้ต้องมีการประกาศมาตรการคุมเข้มอีกรอบ ทั้งการรักษาระยะห่างทางสังคมและตรวจตราชายแดน
ประเทศเพื่อนบ้านของสิงคโปร์อย่างมาเลเซียเริ่มมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับสิงคโปร์ได้ แม้ก่อนหน้านี้ สิงคโปร์จะประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในปีที่แล้วก็ตาม