สหรัฐฯให้เมียนมาตกค้างอยู่ต่อได้ชั่วคราว
วอชิงตัน : เมื่อวันที่ 12 มี.ค. รัฐบาลสหรัฐฯระบุว่าพลเมืองเมียนมาที่ตกค้างอยู่ในสหรัฐฯ จากความรุนแรงหลังกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหาร ยังสามารถอยู่ในสหรัฐฯต่อไปได้ภายใต้ “สถานะที่ได้รับการคุ้มครองชั่วคราว”
“จากการรัฐประหารของกองทัพและความรุนแรงป่าเถื่อนของเจ้าหน้าที่ที่กระทำต่อพลเมือง ประชาชนเมียนมากำลังประสบกับความยากลำบากจากวิกฤตมนุษยธรรมที่ซับซ้อนและเสื่อมถอยในหลายพื้นที่ของประเทศ ” อเลจานโดร มายอร์คาส รมว.กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกล่าว
“ หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนกับสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ ผมจึงให้ชาวเมียนมาอยู่ในสถานะที่ได้รับการคุ้มครองชั่วคราว เพื่อให้ผู้มีสัญชาติเมียนมาและผู้อาศัยถาวรยังคงอยู่ในสหรัฐฯได้ชั่วคราว”
สหรัฐฯ ได้ให้สถานะคุ้มครองชั่วคราวกับพลเมืองหลายประเทศที่มีสถานการณ์รุนแรงทางการเมือง หรือภัยธรรมชาติ ที่ทำให้การเดินทางกลับประเทศยุ่งยาก
สถานะความคุ้มครองจะจำกัดช่วงเวลา เช่น 12 เดือน แต่สามารถขยายเวลาออกไปได้ หากยังมีสถานการณ์ความยากลำบากหรือความเสี่ยงอยู่
ทางกระทรวงระบุว่า การรัฐประหารยึดอำนาจของกองทัพเมียนมาในวันที่ 1 ก.พ. ทำให้เมียนมาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและขาดแคลนความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและการแพทย์
นอกจากนี้ ยังระบุว่าประชาชนที่ประท้วงรัฐบาลทหารถูกเจ้าหน้าที่รัฐกระทำโดยไร้เหตุผล ทั้งถูกควบคุมตัว ถูกข่มขู่ และใช้ความรุนแรงผิดกฎหมาย
“ สถานการณ์เช่นนั้น ทำให้พลเมืองเมียนมาและผู้พำนักถาวรไม่สามารถเดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย” กระทรวงระบุในสถานการณ์
โดยสถานะ TPS ที่ได้รับการคุ้มครองเบื้องต้นนี้จะกำหนดช่วงเวลาไว้ที่ 18 เดือน แต่ทางกระทรวงไม่ได้ระบุว่าครอบคลุมชาวเมียนมาจำนวนกี่คน
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเสนอให้สถานะ TPS กับชาวเวเนซุเอลาหลายหมื่นคนที่ลี้ภัยมาจากการถูกกดดันทางการเมืองและวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศอเมริกาใต้ที่มั่งคั่งร่ำรวย