ยูเอ็นกลัวเมียนมาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
เจนีวา/ย่างกุ้ง – เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติระบุว่า กองทัพเมียนมามีแนวโน้ม ‘ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ’ เพื่อให้อยู่ในอำนาจได้ต่อไป ขณะที่กองทัพกล่าวหาว่านางอองซานซูจีรับสินบนเป็นเงินสดและทองคำ
โดยโธมัส แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษของสหประชาติด้านสิทธิมนุษยชนประจำเมียนมาระบุว่า มีชาวเมียนมาอย่างน้อย 70 รายที่ถูกตำรวจและทหารสังหารหลังการก่อรัฐประหารในวันที่ 1 ก.พ.
ประเทศเมียนมา “ถูกควบคุมโดยระบอบการปกครองที่ก่อให้เกิดการฆาตกรรมผิดกฎหมาย” ซึ่งมีแนวโน้มจะเป็นการ “การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” เขากล่าวกับคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในเจนีวาสวิตเซอร์แลนด์
อาชญากรรมเหล่านี้รวมทั้ง “ การฆาตกรรม บังคับให้สูญหาย การกดขี่ข่มเหง และการทรมาน” ซึ่งกระทำโดยการรับรู้ของผู้บังคับบัญชาอาวุโส รวมถึงพลเอกมินอ่องหล่าย ผบ.สูงสุดด้วย
ขณะย้ำว่าข้อหาเหล่านี้สามารถตัดสินในศาล เขาระบุว่า มีหลักฐานชัดเจนว่า อาชญากรรมของกองทัพนั้น “แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง” และเป็นส่วนหนึ่งของ “แคมเปญที่มีการประสานร่วมมือกัน”
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.สหประชาชาติประณามการปราบปรามของรัฐบาลทหาร ซึ่งทำให้มีการจับกุมตัวชาวเมียนมาไปแล้วกว่า 2,000 คน และแม้แต่ประเทศพันธมิตรรายใหญ่ของเมียนมาอย่างจีนยังเรียกร้องให้มีการ “ลดระดับความรุนแรงลง” และมีการเจรจาหาทางออก
รัฐบาลทหาร ซึ่งไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.ปีที่แล้วที่พรรค NLD ของนางซูจีชนะไปอย่างถล่มทลาย ได้จัดการแถลงข่าว (ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้น) โดยกล่าวหาว่า ผู้นำรัฐบาลพลเรือนอย่างนางซูจีมีความผิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
ยังมีการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยย่านการค้าของเมืองย่างกุ้ง ชาวเมืองหลับไม่ได้อีกคืนเพราะมีเสียงดังจากเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจค้นอพาร์ตเมนต์เพื่อค้นหาอาวุธของตำรวจที่หายไป
“ มีเสียงเหมือนระเบิดดังไปทุกถนนเลย” ชาวเมืองคนหนึ่งระบุ
ในคืนวันที่ 11 มี.ค. สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงอีก หลังจับกุมตัวประชาชนไป 30 รายในวันที่ 10 มี.ค. จากข้อมูลของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง
โดยการปราบปรามผู้ชุมนุมในวันที่ 11 มี.ค. รุนแรงยิ่งขึ้น เพราะมีผู้เสียชีวิตถึง 9 ราย
รายงานขององค์การแอมเนสตีกล่าวหาทหารว่าใช้ “อาวุธจริงในสนามรบ” กับผู้ประท้วงที่ไร้อาวุธ และกระทำการสังหารโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
โดยรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืน ซึ่งไม่เหมาะสมกับการควบคุมฝูงชนในการประท้วง รวมทั้งปืนสไนเปอร์และปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ