เมียนมาผวาโรคระบาดจ่ายเงินคน“ฆ่าหนู”
ปริมาณฝนที่ตกลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ฝูงหนูที่อยู่ในท้องนาต้องหนี้น้ำขึ้นมาอยู่บนเกาะขนาดใหญ่ กลางแม่น้ำอิรวะดี โดยทางการเมียนมาต้องควักเงิน 50 จ๊าต หรือ 1.25 บาท สำหรับคนที่ฆ่าหนูได้ 1 ตัว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่6มิ.ย.ว่า หมู่บ้านที่อยู่บนเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ แถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวะดีของ เมียนมา ถูกกองทัพหนูยกพลขึ้นป่วนกัดกินอาหารและพืชผล จนเจ้าหน้าที่ต้องจ้างฆ่าตัวละ50จ๊าตหรือประมาณ1.25บาท เพื่อป้องกันโรคระบาดที่อาจตามมา
หมู่บ้านที่ถูกฝูงหนูหลายพันตัวบุกดังกล่าวอยู่บนเกาะหะลินยี อยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวะดี ทางตอนใต้ของเมียนมา เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องหาวิธีแก้ปัญหาด้วยการตั้งรางวัลล่อใจ ตั้งเงินรางวัลฆ่าหนูตัวละ50จ๊าตหรือประมาณ1.25บาท ทำให้มีหนูถูกชาวบ้านจัดการตายไปมากกว่า4,000ตัวแล้ว ขณะเดียวกันได้มีการคัดซากหนูบางส่วนไปผ่าตรวจสอบแต่ไม่พบเชื้อโรคอันตรายอย่างที่หวั่นเกรงกัน
แต่แม้จะโล่งใจที่ไม่พบโรคระบาด ชาวบ้านบางคนก็เริ่มห่วงว่าขืนฆ่าหนูไปหมดก็คงไม่มีหนูเหลือให้ทำนายสภาพอากาศเลวร้ายและภัยพิบัติน้ำท่วม แผ่นดินไหว ตามความเชื่อโบราณ ซึ่งไม่ถือว่างมงาย เพราะกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นเคยศึกษาพบว่าหนูอาจรับรู้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดขึ้นก่อนเกิดแผ่นดินไหวได้
ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่าฝนตกหนักทั่วภูมิภาคอิรวะดีช่วงนี้ ทำให้พวกหนูพากันหนีน้ำมาขึ้นฝั่งบนเกาะจนเต็มหมู่บ้านดังกล่าว โดยเมื่อปี2551ชาวเมียนมาเคยเจอปัญหาเดียวกันมาแล้ว เมื่อผู้คนนับพันในรัฐฉิ่นหรือ ชิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา ต้องเสี่ยงอดอยากหลังฝูงหนูที่แรกเริ่มเข้าไปกินผลไผ่แล้วลามไปกัดกินพืชผลชาวบ้านและเมื่อยุคทศวรรษปี1950 เชื่อกันว่ามีผู้คนอดอยากตายไม่มีอาหารกินถึง15,000คน เพราะฝูงหนูระบาด เข้ากัดกินทำลายพืนพันธุ์และอาหารจนหมด