ฟิลิปปินส์ห้ามเดินทางเข้าอีก 30 กว่าประเทศ
มะนิลา – เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ฟิลิปปินส์ขยายคำสั่งห้ามนักเดินทางจากกว่า 30 ประเทศเดินทางเข้าฟิลิปปินส์ เนื่องจากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์เพิ่มขึ้น
โดยคำสั่งห้ามจะมีผลจนถึง 31 ม.ค. ครอบคลุมนักเดินทางจากสิงคโปร์ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง
ขณะที่ยังไม่มีการตัดสินใจห้ามนักเดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งชาวฟิลิปปินส์ ( ซึ่งเดินทางกลับมาฟิลิปปินส์) ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ขณะอยู่ในเมืองดูไบ
“ ประธานาธิบดีจะเป็นผู้ประกาศเอง หากมีคำสั่งห้าม” แฮร์รี โร้ก โฆษกประธานาธิบดีกล่าวให้สัมภาษณ์
ฟิลิปปินส์ขยับคุมเข้มพรมแดนยิ่งขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสที่กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทำให้มีการแพร่ระบาดและติดเชื้อได้มากขึ้น
โดยไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า B117 เชื่อว่าทำให้มีการแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดิม
จากที่มีการตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว ไวรัสกลายพันธุ์นีได้แพร่ระบาดไปแล้วอย่างน้อย 45 ประเทศ แต่การติดเชื้อไม่ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น หรือมีอาการรุนแรงขึ้น
จนถึงตอนนี้ ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 กว่า 494,000 รายและมีผู้เสียชีวิต 9,739 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย
โฆษกโร้กระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ว่า กระทรวงสาธารณสุขจะส่งตัวอย่างผู้ติดเชื้อเพื่อตรวจหาว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือไม่
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. กระทรวงสาธารณสุขประกาศว่า พบไวรัสกลายพันธุ์จากผู้ติดเชื้อวัย 29 ปีที่อาศัยอยู่ในเกซอนในพื้นที่เมืองหลวง ซึ่งไปดูไบเพื่อทำธุรกิจตั้งแต่ 27 ธ.ค. – 7 ม.ค.
เขาตรวจพบว่าติดเชื้อหนึ่งวันหลังกลับจากดูไบมาฟิลิปปินส์ เขาเดินทางไปพร้อมแฟนสาว ซึ่งมีผลตรวจเป็นลบและกำลังตรวจอีกครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขในฟิลิปปินส์เตือนว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นได้ถึง 15 เท่า โดยดร.จอห์น หว่อง จากสถาบันวิจัยสุขภาพ Epimetrics ระบุว่า “ ด้วยอัตราการติดเชื้อ 1.1 ในปัจจุบัน จากผู้ติดเชื้อ 20,000 รายช่วงต้นเดือน อาจเพิ่มเป็น 32,000 รายช่วงสิ้นเดือน แต่หากเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ จากผู้ติดเชื้อ 20,000 รายจะกลา่ยเป็นเกือบ 300,000 รายช่วงสิ้นเดือน ”
จนถึงตอนนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งล็อกดาวน์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่น่ากังวลนี้ โดยแนะนำให้รัฐบาลท้องถิ่นคุมเข้มให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย และเฟซชีลด์เมื่อออกนอกบ้าน
ในเดือนนี้ ฟิลิปปินส์มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเร็วกว่าในเดือนที่แล้ว โดย Octa Research Group ซึ่งทำการศึกษาจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ตั้งข้อสังเกตว่า แนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยอัตราการติดเชื้อในกรุงมะนิลาเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 1 ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ว่า ยอดผู้ติดเชื้ออาจสูงเกิน 1,000 รายหลังช่วงวันหยุดยาว