NEWS

ดูแล้ว: 20 “เอกนิติ” เล็งอนุมัติบริษัทนิติบุคคล 3 ราย คืนภาษีให้แก่นักท่องเที่ยว ณ จุดขาย... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 22 กนอ.จับมือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ลงทุน 3,700 ล้านบาท ตั้งนิคมอุตสาหกรรมแพรกษา พื้นที่กว่า... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 22 บิ๊ก TVD ยันสภาพคล่องเหลือเฟือ ชี้ไม่กระทบแผนการเงิน หลังเทคโอเวอร์ทีวีสปริงนิวส์ เผยไม่จำเป็นต้องนำ FinTech มาใช้ เหตุเพราะระบบเก็บเงินปลายทางดีสุด ลูกค้าพอใจสูงสุดแล้ว ดันส่วนแบ่งรับชำระเงินทะลุ 90% นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีวี ไดเร็ค (TVD) เปิดเผยว่า แม้บริษัทฯต้องใช้เงินมากกว่า 1,000 ล้านบาทในการเข้าถือหุ้นใหญ่ของบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด เจ้าของสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ดิจิทัล ช่อง 19 แต่บริษัทฯไม่จำเป็นต้องใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินใด เนื่องเพราะยังคงมีสภาพคล่องในระบบธุรกิจราว 600 ล้านบาท อีกทั้งการซื้อหุ้นในครั้งนี้ ใช้วิธีการผ่อนชำระเป็นรายเดือนจนครบอายุสัญญาสัมปทานที่เหลือตลอด 10 ปี จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีสินเชื่อเกินวงเงิน (OD) จากธนาคารพาณิชย์พันธมิตรที่ยังไม่ได้ใช้วงเงินกู้อีกกว่า700 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางโทรทัศน์ รวมถึงช่องทางอื่นๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ปีละเกือบ 4,000 ล้านบาทแล้ว เชื่อว่าบริษัทฯจะไม่มีปัญหาด้านสภาพคล่องแต่อย่างใด ส่วนรูปแบบการนำเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ใหม่ๆ มาใช้กับการดำเนินงานในอนาคตหรือไม่นั้นนายทรงพลย้ำว่า คงไม่จำเป็นและไม่มีเหตุผลที่บริษัทฯจะต้องนำ FinTech มาใช้ เนื่องจากทุกวันนี้บริษัทฯประสบความสำเร็จจากที่ได้นำเสนอแนวทางการชำระเงินให้กับลูกค้า ผ่านวิธีการเก็บเงินปลายทาง ซึ่งเป็นรูปแบบที่ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด โดยปัจจุบันใบริษัทฯมีสัดส่วนการเรียกเก็บเงินปลายทางมากที่สุดถึง  80-90% ขณะที่คู่แข่งรายใหญ่ที่เน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ (อีคอมเมอร์ช) ซึ่งน่าจะมีสัดส่วนการชำระเงินปลายทางมากที่สุด แต่กลับมีส่วนแบ่งเพียง 70% เท่านั้น “เรามองว่าการชำระเงินปลายทางเป็นอะไรที่ทันสมัยมาก และเป็นตัวที่จะเข้ามา Disruptive เทคโนโลยีทางการเงิน FinTech ด้วยซ้ำไป ที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ ต่างพอใจที่จะได้เห็นสินค้าก่อนการชำระเงิน ดังนั้น จึงไม่เหตุผลและความจำเป็นใดที่เราจะต้องนำเทคโนโลยีทางการเงิน FinTech มาปรับใช้กับธุรกิจยามนี้” นายทรงพล กล่าวในที่สุด.... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 40 จ่อเปลี่ยนชื่อ “สปริงนิวส์” หลังบอร์ดอนุมัติ “ทีวี ไดเร็ค” เทคโอเวอร์แล้วกว่า 90% เผยไม่ขัดหลักการกสทช. ยึดรายการข่าวเกินครึ่ง ระบุไม่แย่งก้อนเค้กโฆษณา หวังเก็บรายได้จากการขายสินค้าในฐานะ “ผู้นำโฮมช้อปปิ้ง” ตั้งเป้าเบาะๆ ปีแรก 5% จากยอดขายรวมเฉียด 4 พันล้าน นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีวี ไดเร็ค (TVD) กล่าวถึงการเข้าถือหุ้น 90.1% บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ว่า ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่อเข้าดำเนินงานในกิจการสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ดิจิทัล ช่อง 19 จาก กสทช. ทั้งนี้ ใช้งบประมาณเพื่อการนี้ราว 1,080 ล้านบาท ทะยอยชำระทั้งในส่วนการซื้อกิจการและค่าจ้างผลิตข่าวตลอดอายุสัญญาที่เหลือ 10 ปี ให้กับเจ้าของเดิม โดยจากนี้จะเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติต่อที่ประชุม    โดยบริษัทฯมีวิสัยทัศน์จะพัฒนาให้มีรายการนำเสนอสินค้าหลากหลาย ควบคู่รายการข่าวสารที่มีสาระให้แก่ผู้ชม แบ่งเป็นรายการข่าว 6 ชม. สารคดีข่าว 6 ชม. รวมถึงรายการโฮมช้อปปิ้ง และทีวีช้อปปิ้งอีกอย่างละ 6 ชม. นอกจากนี้ ยังมีเวลาข่าวต้นขั่วโมงอีก 12 ช่วงๆ ละ 5 นาที มอบหมายให้ทีมข่าวสปริงนิวส์รับผิดชอบ โดยแบ่งเวลาในการขายโฆษณาแยกกันไป ”... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 23 South Bangkok Civil Court judged Ford Motor... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 44 DPM Somkid’s Son Dr.Napat Urged All Business... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 20 “พาณิชย์” เผยส่งออกเดือนส.ค. มีมูลค่า 22,794 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 6.68% มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์... อ่านต่อ

ดูแล้ว: 20 เลขาฯคปภ. ขานรับนโยบายขุนคลัง เร่งจัดทำแผนแม่บทประกันภัย เผยเร่งดึง “บริษัทประกันภัยต่อ” ชั้นนำของโลก จากฝั่งยุโรปและอเมริกาตั้งสาขาในไทย ส่ออัดแรงจูงใจเพียบทั้งมาตรการภาษีและบีโอไอตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำประกันภัยกลุ่มประเทศ CLMV  นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)กล่าวถึงแนวนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ว่า แม้แผนแม่บทของอุตสาหกรรมการประกันภัยจะถือเป็นโจทย์ใหญ่ แต่คปภ.ก็พร้อมจะรับไปดำเนินการโดยในส่วนของแผนปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการเชิญชวน “บริษัทประกันภัยต่อ” (Reinsurance) ขนาดใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาตั้งสำนักงานสาขาในไทย ขณะนี้ ได้มีการหารือและคืบหน้าไปบ้างแล้ว เบื้องต้นมี “บริษัทประกันภัยต่อ” จากกลุ่มประเทศยุโรปและอเมริกา สนใจจะเข้ามาดูโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะตั้งสำนักงานสาขาในไทย ส่วนบริษัทฯจากจีนอาจมีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากมีสำนักงานสาขาอยู่ที่สิงคโปร์แล้วและอาจใช้สำนักงานที่นั่นมารับงานต่อจากบริษัทประกันภัยของไทย “ตอนนี้กรมสรรพากรและสำนักงานบีโอไอ อยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการสร้างแรงจูงใจ ทั้งมาตรการทางภาษีและมาตรการส่งเสริมการลงทุน ประกอบกับการที่รัฐบาลไทยได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลดำเนินการก่อสร้างโครงการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการอีอีซี (เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจ ย่างดีที่จะทำให้ “บริษัทประกันภัยต่อ” ชั้นนำจากต่างประเทศ สนใจเข้า าตั้งสำนักงานสาขาในไทย” สำหรับการเป็น “ฮับ” ของธุรกิจประกันภัยในกลุ่มประเทศ CLMV นั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า ตอนนี้มีการประสานงานคืบหน้าไปมาก ทั้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศเหล่านั้น และจากการหารือกับสมาคมและบริษัทประกันภัยของไทย มีโอกาสที่เราจะเข้าไปเป็นผู้นำธุรกิจประกัยภัยในกลุ่มประเทศCLMV สูงทีเดียว  ส่วนร่างแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 นั้น ตอนนี้ คปภ.อยู่ระหว่างทบทวนและพิจารณาแผนพัฒนาประกันภัย ฉบับที่ 3 ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2563 เพื่อใช้เป็ณเกณฑ์ในการจัดทำร่างแผนฯฉบับที่ 4 โดยจากนี้จนถึงปีหน้า (2562) จะพิจารณาทบทวนถึงสภาพการณ์ที่เป็นไป โดยเฉพาะการที่ “เทคโนโลยีดิจิทัล” ก้าวหน้าไปไกลมาก จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจประกันภัยทั้งที่เป็ยบวกและเป็นลบ สิ่งเหล่านี้ คปภ.จะต้องนำมาวิเคราะห์และประเมินผล เพื่อวางกรอบในการจัดทำร่างแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 ต่อไป.... อ่านต่อ