NEWS

ดูแล้ว: 30 ปักกิ่ง/ฮ่องกง (รอยเตอร์)  –  จีนเตรียมพร้อมรับงานเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 25 บีโอไอ ยกกระดับการผลิตชิ้นส่วนไทย สู่ อุตสาหกรรมระบบราง  รับแผนยุทธศาสตร์พัฒนาระบบราง และอุตสาหกรรมสนับสนุน ของไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์เชื่อมโยงกับภูมิภาค... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 62 เอ็กโก กรุ๊ป เดินเครื่อง โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา ในฟิลิปปินส์ 500 เมกะวัตต์... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 59 ไทยพาณิชย์ หนุนเอสเอ็มอีไทยต่อเนื่อง รุกปรับโฉม SCB Business Centerสู่การเป็นคอมมูนิตี้แห่งใหม่ของคน (อยาก)... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 35 สนธิรัตน์ร่วมประชุมเวที LNG ระดับโลกที่ญี่ปุ่นหารือพัฒนาศักยภาพรองรับความต้องการ LNG เอเชียพุ่งพร้อมเยี่ยมชม LNG Terminal... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 17 ธนชาตรุกตลาดสินเชื่อบ้าน เพิ่มทางเลือกใหม่ให้ลูกค้า ด้วยเงินฝากหักลดดอกเบี้ยบ้านได้ คล่องตัว ปิดบัญชีไวกว่าเดิม ธนาคารธนชาตรุกตลาดสินเชื่อบ้าน ออกสินเชื่อบ้านรูปแบบใหม่ Offset Housing Loan เพิ่มทางเลือกตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้า ที่หลากหลายยิ่งขึ้น นำเงินฝากมาหักลดยอดในการคิดดอกเบี้ยบ้านได้ และยังให้สภาพคล่อง ถอนเงินฝากออกมาใช้ได้ ชี้จ่ายดอกเบี้ยบ้านน้อยลง ปิดบัญชีได้ไวกว่าสินเชื่อบ้านแบบเดิม ตอกย้ำแนวคิดให้การกู้บ้าน ไม่ปิดกั้นความก้าวหน้าของชีวิต นายสุนันท์ อัมหิรัญ ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจสินเชื่อเคหะ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารธนชาตมีนโยบายยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) และได้ออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านเพื่อให้ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสมและครอบคลุม ภายใต้แนวคิดให้การกู้บ้าน ไม่ปิดกั้นความก้าวหน้าของลูกค้า โดยปัจจุบันมีให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านที่หลากหลาย อาทิ สินเชื่อบ้านใหม่ สินเชื่อบ้านมือสอง สินเชื่อรีไฟแนนซ์ สินเชื่อปลูกบ้าน สินเชื่อบ้านแลกเงิน และ สินเชื่อโฮมพลัส โดยล่าสุด ได้ออกผลิตภัณฑ์ สินเชื่อบ้าน Offset Housing... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 23 ธ.ก.ส. เปิดตัว สินเชื่อปลูกป่าสร้างรายได้วงเงิน 5 พันล้านบาท หนุนเกษตรกรลดการบุกรุกป่า ปรับเปลี่ยนอาชีพสร้างรายได้อย่างยั่งยืนและมอบสินเชื่อให้ลูกค้ากลุ่มแรกที่ผ่านเกณฑ์ ธ.ก.ส. เปิดโครงการสินเชื่อปลูกป่าสร้างรายได้ ให้เกษตรกรในพื้นที่ป่าต้นน้ำใน 11 จังหวัด วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 50,000 ราย เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร หนุนการปรับเปลี่ยนอาชีพ เพิ่มรายได้ ลดความเสี่ยงจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการบุกรุกทำลายป่า สร้างความยั่งยืนสู่เศรษฐกิจฐานรากโดยนาย กฤษฎา จันะวิจารณะ กรรมการ ธกส. เป็นประธานเปิดงานและกล่าวว่าธกส. มองทางออกที่ดีที่สุด คือ คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้ เราจะเน้นให้ชาวบ้านปลูกอะไรที่ขายได้ ดูตลาดวว่ามีความต้องการอะไร เพื่อกลายเป็นพืชเศรฐกิจ และเป็นอีก1โอกาศในการกู้ระยะยาว ปลูกต้นไม้มีเงิน มีเงินออมระยะยาว ลูกหลานในอนาคตจะเกิดความมั่งคั่ง ธกส. จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อลูกค้าชุมชนและธรรมชาติในประเทศจะกลับคืนมา นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า  ธ.ก.ส. ได้จัดทำโครงการสินเชื่อปลูกป่าสร้างรายได้ เพื่อสนับสนุนนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน “ประชารัฐสร้างไทย” ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของชาวบ้านและชุมชน สามารถช่วยรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ช่วยยกระดับรายได้ คุณภาพชีวิตและรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีพื้นที่เป้าหมายที่ป่าไม้ถูกบุกรุกมากที่สุดและเป็นป่าต้นน้ำ ใน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน พะเยา ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก และเลย ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกป่า ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด อ้อย ที่มีความเสี่ยงด้านการผลิต ด้านราคาและมาตรการกีดกันทางการค้า พร้อมส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการผลิตไปสู่การปลูกพืชที่หลากหลาย ควบคู่การปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่ารักษาสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เช่น ปลูกไม้กินได้ ไม้ใช้สอย และไม้เศรษฐกิจ เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียน สามารถลดต้นทุนการผลิต และลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ตามแนวทางเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเอง โดยมีเป้าหมายเกษตรกรลูกค้าเข้าร่วมโครงการ 50,000 ราย เนื้อที่รวม 500,000 ไร่ วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 100,000 บาท รวม 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการต้องเป็นเกษตรกรลูกค้าที่มีหนี้สินเป็นภาระหนักหรือมีหนี้สินเดิมและต้องการปรับเปลี่ยนอาชีพเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม และผ่านการประเมินความสามารถในการประกอบอาชีพตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร โดยปลอดชำระต้นเงินไม่เกิน 5 ปีแรก นับแต่วันที่ขอกู้ คิดอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 – 3 เท่ากับ MRR... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 29 วอชิงตัน (รอยเตอร์)  –  เมื่อวันที่ 25 ก.ย. กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯจะเปิดการสอบสวนเฟซบุ๊กในประเด็นการต่อต้านการผูกขาด... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 22 รมว.คลัง เล็งนำ “บล็อกเชน” ยกระดับดิจิทัลแพลตฟอร์ม เสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและประเทศชาติ พร้อมจับ... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 34 คปภ. เร่งตรวจสอบพร้อมประสานบริษัทประกันภัย จ่ายค่าสินไหมทดแทน หวังเยียวยาอุบัติเหตุเครื่องบินทำฝนหลวงตกที่กาญจนบุรี ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 28 กรุงศรีเผยเงินบาทแข็งค่า หลังกนง. คงดอกเบี้ยตามคาดบาทแข็งค่าที่สุดในเอเชีย   กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดไว้ หลังจากที่ได้ปรับลดดอกเบี้ยลงเมื่อเดือนที่แล้ว โดยเงินบาทแข็งค่าและซื้อขายแถวระดับ 30.54 ต่อดอลลาร์ ภายหลังการลงมติในวันนี้ นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทแข็งค่ามากกว่า 6% นับเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดในเอเชีย ขณะที่คณะกรรมการ กนง. ยังคงแสดงความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาทและระบุว่าอาจพิจารณามาตรการเพิ่มเติมถ้าจำเป็น คณะกรรมการ กนง. กล่าวย้ำว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ และการหดตัวของส่งออกส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในประเทศ รวมทั้งแสดงความกังวลในเรื่องปัญหาสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจของประเทศหลักๆ รวมทั้งความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ คณะกรรมการยังระบุถึงวัฏจักรขาลงต่อเนื่องของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และแม้ว่ามีการใช้มาตรการการคลังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริโภคภาคเอกเชนมีแนวโน้มชะลอตัวเนื่องจากรายได้ที่ปรับลดลงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ในด้านแรงกดดันด้านราคา กนง.มองว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 1-4% ในปี 2563 สำหรับปี 2562 คาดการณ์การเติบโตของ GDP ได้ปรับลงมาที่ 2.8% จากเดิม 3.3% โดยคาดการณ์ภาคส่งออกจะหดตัวราว 1.0% และคณะกรรมการยังปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2563 มาที่ 3.3% จากเดิม 3.7% แต่มองว่าส่งออกน่าจะขยายตัว 1.7% ในปีหน้า คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ความเห็นของ กนง. ในวันนี้มีท่าทีไม่แตกต่างจากการประชุมเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ผลการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์แสดงให้เห็นว่า คณะกรรมการยังคงกังวลในเรื่องผลกระทบจากการปล่อยให้ดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับต่ำเป็นเวลานาน ทั้งนี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ มีความเห็นว่า กนง.ยังคงต้องการรอดูสถานการณ์ก่อน ขณะที่เรามองว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาที่ 1.25% ในช่วงปลายปี โดยเฉพาะถ้าเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มขาลง และคาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยในไตรมาส 4/2562 น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของการปรับลดดอกเบี้ยในรอบนี้... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 28 เผยยอดผู้สมัครมาตรการ “ชิมช้อปใช้” วันที่ 4 “เต็มล้าน” เร็วกว่าทุกวัน แค่... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 31 “เน็กซัสฯ” ชี้รถไฟฟ้าปัจจัยบวกช่วยกระตุ้นอสังหาฯคึกคัก เปิดบทวิเคราะห์ตลาดอสังหาฯไทย พบตลาดที่อยู่อาศัยยังอยู่ในภาวะทรงตัว ในขณะที่ LTV ยังคงออกฤทธิ์... อ่านต่อ