MONEY MOVEMENT

ดูแล้ว: 14 รัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ชิม ช้อป ใช้ ในวันแรกตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 23 กันยายน 2562  นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ชิม ช้อป ใช้ ในวันแรกตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 23 กันยายน 2562 ที่ผ่านมานั้น ธนาคารขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความสนใจอย่างล้นหลาม เกินความคาดหมาย และขอยืนยันว่า ระบบไม่ได้ล่ม แต่เนื่องจาก มีคนเข้ามาลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้ระบบหน่วงเป็นช่วงๆ จึงอาจต้องใช้เวลาในการรอลงทะเบียน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีการใช้งานจำนวนมากๆ ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญระบบของธนาคารต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เนื่องจากการลงทะเบียนในครั้งนี้ จะมีการโอนเงินให้กับประชาชน ดังนั้นจึงให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้ อีกทั้งธนาคารคำนึงถึงเรื่องความมั่นนคง ปลอดภัยสูงสุด รวมถึงความถูกต้อง เป็นธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ โดย ณ เวลา 13.15 น. ของวันที่ 23 กันยายน 2562 มีคนลงทะเบียนสำเร็จแล้ว จำนวนกว่า 9.3 แสนคน ธนาคารได้มีการเฝ้าระวังการลงทะเบียนตลอดเวลา ทันทีที่ทราบว่าประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าลงทะเบียนและเกิดความล่าช้านั้น ธนาคารเร่งขยาย Bandwidth ของช่องทางลงทะเบียนเพิ่มอีก 100% และปรับปรุงประสิทธิภาพของ Website  เพื่อให้เกิดความรวดเร็วโดยทันที รวมทั้งมีความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้ และยังคงมีความมั่นใจในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) จากกรณีที่หน้าจอแจ้งว่า ลงทะเบียนครบ 1 ล้านสิทธิ์หลังเปิดให้ลงทะเบียนเพียง 6 นาที ธนาคารทราบถึงสาเหตุของเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งเกิดจากการเรียนรู้ของระบบประมวลผลแสดงค่าอัตโนมัติผิดพลาด ซึ่งธนาคารได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในทันทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   ​นายผยง ศรีวณิช กล่าวในตอนท้ายว่า มาตรการดังกล่าวกำหนดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์จำนวน 10 ล้านคน โดยให้ลงทะเบียนได้วันละ 1 ล้านคน ดังนั้นประชาชนสามารถทยอยลงทะเบียนได้ทุกวันที่ www.ชิมช้อปใช้.com... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 39 ไทยพาณิชย์ – เชลล์แห่งประเทศไทย – โตโยต้า คอนเนคเต็ด เอเชีย แปซิฟิค ผนึกกำลังสร้างประสบการณ์ In-Car Payment แบบไร้รอยต่อ บุกเบิกการให้บริการ PASSPay สำหรับผู้ใช้รถยนต์ครั้งแรกในไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ในฐานะผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง จับมือพันธมิตร บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และบริษัท โตโยต้า คอนเนคเต็ด เอเชีย แปซิฟิก จำกัด พัฒนาเทคโนโลยีด้านการชำระเงินรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าแบบไร้รอยต่อ (Seamless Experience) ในการชำระเงินสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือ “In-Car Payment” ผ่านแอปพลิเคชัน PASSPay เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าให้สามารถเข้าถึงบริการที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการเติมน้ำมันในสถานีน้ำมันเชลล์ หรือการสั่งเครื่องดื่ม และอาหารในร้าน Deli Café แบบไม่ต้องลงจากรถเป็นครั้งแรกของประเทศไทย... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 22 SME D Bank (ธพว.) ผุดมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ หวังช่วยลูกค้า SMEs ฟื้นฟูกิจการ เผยลูกค้าเดิมคิดดอกเบี้ยเพียง 0.415%... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 38 SME D Bank (ธพว.) จับมือสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ปลุกกระแสช้อปปิ้งสินค้าดีจากชุมชน จัดงาน “ตลาดนัดประชารัฐวายุภักษ์รักประชาชน” ช่วง 24... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 197 ธนาคารธนชาตเชิญชวนบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทุกยอดบริจาค 1 บาท ธนชาตช่วยสมทบ 1 บาท ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เชิญชวนลูกค้าและประชาชน ร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากพายุโพดุล ซึ่งมีพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ด้วยการบริจาคเงินผ่านธนาคารธนชาต ชื่อบัญชี “ธนชาตเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย” เลขที่บัญชี ‪004-6-18118-1‬ ผ่าน Thanachart Connect โมบายแอป หรือ ที่ตู้เอทีเอ็ม และสาขาธนาคารธนชาต ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2562  โดยทุกๆ ยอดบริจาค 1 บาท ธนาคารธนชาต จะช่วยสมทบ 1 บาท (ธนาคารธนชาต บริจาคสมทบสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท) ซึ่งธนาคารธนชาตจะนำเงินที่ได้รับบริจาคทั้งหมดและเงินจากการบริจาคสมทบของธนาคารมอบให้สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เดือดร้อนจากภัยพิบัติพายุโพดุลต่อไป ผู้บริจาคที่ต้องการหลักฐานไปลดหย่อนภาษี สามารถส่งหลักฐานการโอน พร้อมชื่อที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ มาที่อีเมล foundation@thanachart.co.th หรือ โทรสาร 0-2613-6080 เพื่อขอออกใบเสร็จจากสภากาชาดไทยได้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ธนาคารธนชาต ได้ร่วมกับธนาคารพาณิชย์สมาชิกของสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันบริจาคเงินในนามสมาคมธนาคารไทย จำนวน 50 ล้านบาท โดยเป็นในส่วนของธนาคารธนชาต จำนวน 3 ล้านบาท ให้แก่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ในโครงการ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ซึ่งรัฐบาลจัดขึ้นเพื่อระดมเงินนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 39 EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้า “ทางตรง-อ้อม” ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคเหนือและอีสาน งัดแนวทาง “พักหนี้-ลดดอกเบี้ย-ยืดเวลาหนี้-ให้กู้เพิ่ม” หวังเยียวยาผู้ส่งออกและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 27 ธ.ไทยเครดิตฯ กล้าให้ อัดแคมเปญสนับสนุนเอสเอ็มอีไทย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ นายรอย ออกุสตินัส กุนารา กรรมการผู้จัดการ นายกมลภู ภูริดิฐสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริหารการขาย และนายนาธัส กฤตวรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อ SME กล้าให้” อัดแคมเปญสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็ก วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท รีไฟแนนซ์ดอกเบี้ย 0% พร้อมหนุนสินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ตอบรับความต้องการของผู้ประกอบการที่มีข้อจำกัดด้านหลักทรัพย์ ตามแนวคิด “ทุกคนคือคนสำคัญ” นายรอย ออกุสตินัส กุนารา เปิดเผยว่า “ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ธนาคารตระหนักดีถึงความจำเป็นในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการเอส เอ็มอีขนาดเล็ก ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เพื่อยืนหยัดดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างมีศักยภาพ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ “SME กล้าให้” พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็กสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างทั่วถึง ด้วยเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน โดยสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี พร้อมดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือน เมื่อรีไฟแนนซ์สินเชื่อมาจากสถาบันการเงินอื่น”  “นอกจากนี้ ธนาคารยังเข้าใจถึงข้อจำกัดของผู้ประกอบการบางส่วนที่ไม่สามารถจัดหาหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือหลักทรัพย์มีมูลค่าไม่เพียงพอ จึงเสนอสินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้วงเงิน 3 เท่าของยอดขายเฉลี่ยต่อเดือน สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อของธนาคาร เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ หรือเสริมสภาพคล่องได้ ตามแนวคิด ‘ทุกคนคือคนสำคัญ'” ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อยทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ธันวาคม 2562 ติดต่อ Call Center โทร 02-697-5454 หรือกรอกข้อมูลเพื่อให้ธนาคารติดต่อกลับที่เว็บไซต์ www.tcrbank.com... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 24 ไทยพาณิชย์ จัดใหญ่ ยกเลิกค่าธรรมเนียมผู้ประกอบการรายย่อย ส่งแคมเปญยักษ์ “SME Fighto” ปลุกสปิริตนักสู้ผู้ประกอบการพร้อมอาวุธหนัก “มณี Free Solution” ผู้ช่วยเรื่องธุรกิจแบบครบวงจร ธนาคารไทยพาณิชย์ จับอินไซต์กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่กำลัง “เหนื่อย” ต่อการทำธุรกิจในช่วงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมส่งแคมเปญ “SME Fighto” (เอสเอ็มอี ไฟท์โตะ) ปลุกสปิริตนักสู้ผู้ประกอบการให้ไม่ยอมแพ้ และอาวุธใหม่ “มณี Free Solution” ผู้ช่วยเรื่องธุรกิจแบบครบวงจร ให้ค้าขายราบรื่น ร่ำรวย เติบโตอย่างมั่งคั่ง ด้วยสามจุดเด่นที่ให้แบบฟรีๆ สำหรับเอสเอ็มอีที่มียอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาท ได้แก่ 1) ฟรี! ค่าธรรมเนียมทุกประเภทเมื่อทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์ม และมีบัญชีมณีมั่งคั่ง รวมถึงฟรีบริการรับฝากเช็คข้ามเขต 2) ฟรี! อัพเกรดดอกเบี้ย บัญชีมณีมั่งคั่ง บัญชีเดินสะพัดดอกเบี้ยสูงสุด 1% รับดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือน เมื่อฝากตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด 3) ฟรี! บริการ Co-working... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 18 กรุงศรีเติบโตตามเป้าลูกค้าธุรกิจเน้นปรับพอร์ตสมดุล เสริมพลัง MUFG หนุนลูกค้าโตต่อเนื่อง กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เปิดเผยกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ (Commercial Banking) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ด้วยการผสานความแข็งแกร่งของกรุงศรีและเครือข่ายระดับโลกของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เพื่อนำเสนอบริการทางการเงินแบบครบวงจรที่เหนือกว่า ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และลูกค้าธุรกิจ SME มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ พร้อมสร้างการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและรายได้จากค่าธรรมเนียมผ่านบริการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจ นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 กลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีมีผลการดำเนินงานแข็งแกร่งและเติบโตตามเป้าหมาย รวมทั้งรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมาย ซึ่งเมื่อพิจารณาจากสภาวะแวดล้อมในประเทศและความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจการค้าโลก ลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีสามารถปรับตัวรับผลกระทบจากภาวะผันผวนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีได้มุ่งเน้นการปรับพอร์ตให้มีความสมดุลเพื่อเพิ่มคุณภาพในการบริหารจัดการและสร้างความแข็งแกร่งและด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังผันผวน  กรุงศรียังคงสนับสนุนลูกค้าธุรกิจของธนาคารอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยเน้นความโดดเด่นในการผสานพลังศักยภาพการให้บริการ ความแข็งแกร่งของกรุงศรีกับเครือข่าย MUFG ทำให้สามารถนำเสนอบริการทางการเงินที่แตกต่าง อีกทั้งแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงของค่าเงินและอัตราดอกเบี้ย ตลอดจนการให้คำปรึกษา การให้ความรู้และกิจกรรมที่ช่วยสร้างเครือข่ายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ผ่านบริการ Krungsri Business Empowerment เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจของธนาคาร สามารถนำไปต่อยอดการทำธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว รวมทั้งยังมีการพัฒนาระบบการทำธุรกรรมผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มที่หลากหลายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับลูกค้าธุรกิจให้มีความคล่องตัวและต้นทุนที่ถูกลง รวมถึงเตรียมความพร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลอีกด้วย” ดร.เมธินี จงสฤษดิ์หวัง ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ กล่าวว่า “กรุงศรีให้ความสำคัญกับการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางและยกระดับบริการให้เป็นเหมือนพันธมิตรคู่คิด (Thought... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 36 ครั้งแรก เคแบงก์ เปิดให้โอนพ้อยท์บัตรเครดิตกสิกรไทย เป็นพ้อยท์ของพันธมิตรยักษ์ใหญ่ได้ทันทีบน K PLUS  ธนาคารกสิกรไทย... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 24 ธนาคารกรุงไทย ส่งเสริมผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่เป็นเจ้าของธุรกิจ พร้อมต่อยอดกิจการให้เติบโตอย่างยั่งยืน สนับสนุนสินเชื่อให้กับ “โอ้กะจู๋” ร้านอาหารออร์แกนิคชื่อดัง เพิ่มกำลังการผลิตผักปลอดสารพิษ... อ่านต่อ
ดูแล้ว: 22 ธนาคารธนชาตห่วงใยประชาชน ประกาศเตือนภัยผู้ที่เข้าเว็บไซต์เล่นพนันออนไลน์จากต่างประเทศ ระวังถูกมิจฉาชีพล้วง “ข้อมูลส่วนตัว” ไปใช้หาประโยชน์ ย้ำข้อมูลไม่ได้รั่วไหลจากระบบธนาคาร แต่ฐานข้อมูลเว็บพนันไม่มีระบบป้องกันที่ปลอดภัยเพียงพอ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ออกประกาศเตือนภัยประชาชน หลังมีรายงานจากศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร (TB-CERT)  และศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT ) ว่า เกิดเหตุการณ์ข้อมูลประชาชนซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารหลายแห่ง รั่วไหลจากเว็บพนันออนไลน์ในต่างประเทศ โดยประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อได้ให้ข้อมูลส่วนตัวแก่เว็บไซต์พนัน ได้แก่ ข้อมูลเลขที่บัญชีธนาคารที่ใช้ในการโอนเงิน ชื่อ-สกุล วันเดือนปีเกิด เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงรหัสหลังบัตรประชาชน เป็นต้น โดยประมาณการจำนวนข้อมูลที่รั่วไหลออกไปราว 40 ล้านรายการซึ่งการรั่วไหลของข้อมูลดังกล่าว “ไม่ได้เกิดจากระบบธนาคาร” แต่เป็นเพราะระบบฐานข้อมูลของเว็บพนัน ไม่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลใดๆ ทำให้บรรดามิจฉาชีพเจาะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้ ธนาคารธนชาตมีความเป็นห่วงและอยากให้ลูกค้าทุกท่านระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนตัวกับเว็บไซต์ต่างๆ โดยมีแนวทางเสนอแนะ ดังนี้ –            ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ก่อนจะให้ข้อมูลส่วนตัวทุกครั้ง (ดูวิธีการสังเกตเบื้องต้นได้ที่ลิงค์นี้ https://facebook.com/thanachartbank/posts/2044524652236929 –            ระวังการคลิกลิงก์จากอีเมลหลอกลวง (Phishing Mail) (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.thanachartbank.co.th/TbankCMSFrontend/newsletter/tbankdsi_14.html)... อ่านต่อ