สไตรค์ครั้งใหญ่ในกรีซหลังเศรษฐกิจถดถอย
โรงพยาบาล บริการขนส่งสาธารณะ และหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศกรีซได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการนัดผละงานประท้วงครั้งใหญ่เพื่อต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหม่
โดยการกดดันรัฐบาลเพื่อหวังผลทางเศรษฐกิจเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 16 พ.ค.แต่เริ่มขยายตัวลุกลามไปทั่วประเทศจากสมาชิกของสหภาพการค้าแห่งใหญ่
บริการเรือเฟอร์รีและรถโดยสารสาธารณะหยุดให้บริการและผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศหยุดทำงานเป็นเวลาถึง 4 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กรีซกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้ได้งบประมาณช่วยเหลือรอบใหม่จากอียู หลังจากได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อกอบกู้ไม่ให้เศรษฐกิจของกรีซล่มสลายมาแล้วถึง 3 ครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยรัฐบาลหวังว่า จะได้รับการอนุมัติเงินกู้ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของยูโรโซนในวันที่ 22 พ.ค.ที่จะถึงนี้
นายโฮเวิร์ด อาร์เชอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ IHS Markit กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจของกรีซกลับมาสู่ภาวะถดถอยจะส่งผลอย่างมากกับเสถียรภาพการเป็นลูกหนี้
“ มีการเห็นพ้องกันในการตกลงระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้ในเรื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้ ” เขากล่าว
ส.ส.ของกรีซมีกำหนดต้องโหวตในประเด็นการปฏิรูปเศรษฐกิจซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันในวันที่ 18 พ.ค.นี้
โดยจะเกี่ยวข้องกับการลดเงินบำนาญและระงับการงดเว้นภาษี
โดยรัฐบาลซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายของกรีซจำเป็นต้องมีเงินคงคลังมากกว่านี้ก่อนที่รัฐมนตรีคลังของยูโรโซนจะตกลงเพื่อให้ความช่วยเหลือด้วยเงินกู้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่
ที่จริงแล้ว มาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่จะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกระทั่งปี 2562 และ 2563 แต่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส สิปราส ต้องโน้มน้าวให้รัฐมนตรีคลังของยูโรโซนอนุมัติเงินกู้รอบใหม่จำนวน 7,500 ล้านยูโรในวันที่ 22 พ.ค.นี้ให้ได้
กรีซกลับมาประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา อ้างอิงจากตัวเลขของ Eurostat
โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีของกรีซลดลง 0.1% ในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากหดตัวลง 1.2% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2559.