ไทย ลงนาม จองวัคซีนโควิด-19 นายกฯ คาด ได้ใช้แน่ กลางปีหน้า
นายกฯ เป็นประธานพิธีลงนามสัญญาจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยการจองล่วงหน้า มั่นใจไทยมีวัคซีนใช้ในปี 64 เผยพระมหากรุณาธิคุณ ร.10 พระราชทานให้ บจก.สยามไบโอไซเอนซ์รับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน
(27 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีน COVID-19 โดยการจองล่วงหน้าและสัญญาการจัดซื้อวัคซีน ระหว่างสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับบริษัท AstraZeneca จำกัด โดยมี พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวังและประธานกรรมการ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และทูตานุทูต ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามระหว่างนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และนายเจมส์ ทีก ประธานบริษัท AstraZeneca (ประเทศไทย)
นายกรัฐมนตรี กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานความร่วมมือบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในพระปรมาภิไธย ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ รัฐบาลพร้อมน้อมนำพระราโชบายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 รักษา สืบสาน ต่อยอด เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ให้แก่ประเทศชาติ ดูแลสุขภาพประชาชนคนไทยไม่ให้มีโรคภัยไข้เจ็บเพื่อเตรียมความพร้อมในอนาคต
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลตระหนึกถึงความสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขและทุกภาคส่วนในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ถือว่าโครงการใกล้จะบรรลุเป้าหมาย ทั้งนี้ คาดว่าจะไทยจะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ใช้ภายในปี 2564 เมื่อได้รับวัคซีนมาแล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อมทั้งการบรรจุภัณฑ์ การขนส่ง การแจกจ่ายให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงวัคซีนที่เป็นสินค้าสาธารณะ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังจัดเตรียมกองทุนเพื่อสนับสนุนการวิจัยพัฒนาให้ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เอง
ทั้งนี้ นาย Pascal Soriot ประธานกรรมการ บริษัท AstraZeneca จำกัด ยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ โดยแสดงความยินดีรัฐบาลที่ดำเนินการให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรนา 2019 จนเป็นที่ยอมรับนอกจากนี้ ยังชื่นชมความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยและหน่วยงานสาธารณสุขที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะทำให้ประเทศไทยจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในระดับภูมิภาคอาเซียนอย่างแพร่หลายอีกด้วย