ครม.รับทราบข้อสังเกต กมธ.CPTPP พร้อมข้อเสนอแนะ
ที่ประชุม ครม.รับทราบข้อสังเกต กมธ.CPTPP พร้อมข้อเสนอแนะ มอบ ดอน ถก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลการหารือใน 30 วัน
(23 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. รับทราบข้อสังเกตของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏรเสนอ ซึ่งเป็นความตกลงการค้าเสรีที่จะนำไปสู่โอกาสที่เพิ่มขึ้นทางการค้า การลงทุน และขีดความสามารถทางการแข่งขัน มีขอบเขตกว้างขวางครอบคลุมการเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน การเคลื่อนย้ายนักธุรกิจชั่วคราว การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าได้แก่ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ทรัพย์สินทางปัญญา รัฐวิสาหกิจ นโยบายการแข่งขันทางการค้า มาตรฐานแรงงาน สิ่งแวดล้อม รวมถึงกลไกแก้ไขข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลและนักลงทุนต่างชาติ เพื่อสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก
อนึ่ง เพื่อให้การตัดสินใจของรัฐบาลเป็นไปอย่างรอบคอบ ไม่เป็นที่กังวลจากภาคส่วนต่างๆ อีกทั้งเกิดประโยชน์ต่อประเทศอย่างแท้จริง กรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ทำการศึกษาโอกาสและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และมีข้อเสนอแนะ 3 ประเด็น ดังนี้
ด้านการเกษตรและพันธุ์พืช
-ทำความเข้าใจให้เกษตรกรยอมรับการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา UPOV และเตรียมความพร้อมให้แก่เกษตรกร รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. คุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 และจัดทำกฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เช่น
-ให้มีกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ที่ต้องการขอขึ้นทะเบียนยา ที่มีส่วนประกอบของจุลชีพหรือจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับจุลชีพ
ต้องสำแดงแหล่งที่มาร่วมด้วยให้เร็วที่สุด
-ศึกษาและหรือวิจัยต่อยอดเพิ่มเติมในลักษณะบูรณาการ เช่น ผลกระทบด้านการขึ้นทะเบียนตำรับยา การเข้าถึงยาของประชาชน
-เร่งดำเนินการรวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลพันธุ์พืชสมุนไพรให้ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันโดยเร็วที่สุด
-ให้มีการจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและห้องปฏิบัติการในการตรวจสอบ จำแนกเครื่องมือแพทย์ และเครื่องมือแพทย์มือสอง
ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน เช่น
-ให้มีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า
-ควรเจรจาเพื่อจัดทำภาคผนวกของข้อบทลงทุนที่ประเทศไทยมีสิทธิ์ในการเจรจาข้อสงวน
-ให้กรมบัญชีกลางดำเนินการศึกษากฎหมายกฎระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐที่ไม่สอดคล้องกับความตกลง CPTPP
นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า ครม.ยังมอบหมายให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รับข้อสังเกตของกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาดำเนินการร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้ส่งผลการพิจารณาให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ภายใน 30 วัน เพื่อเสนอ ครม.ต่อไป และขอย้ำว่า ในลำดับต่อไป จะเป็นการพิจารณาว่า จะไปเจรจาหรือไม่ บนเงื่อนไข/ข้อสงวนลักษณะใดต่อประเด็นอ่อนไหวที่จะเป็นการให้เวลาประเทศไทยดำเนินการในเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการปรับตัว จึงยังมิใช่การลงนามในข้อตกลงฯ เพราะกว่าจะถึงตรงนั้นต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 178