“หม่อมอุ๋ย-รสนา”ขย่มซ้ำปม ยืมนาฬิกาเพื่อน
“หม่อมอุ๋ย” และ “รสนา” ผนึกกำลังออกโรงกระทุ้งปม “นาฬิกาหรู” ของ “พลเอกประวิตร” หลังสังคมคาใจกับการยืมนาฬิกาเพื่อนมาใส่
ผ่านไปนับเดือนกับประเด็นนาฬิกาหรูของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ล่าสุด ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีใน ครม.ประยุทธ์1 และฐานะเพื่อนร่วมรุ่นเซนต์คาเบรียล ของ พล.อ.ประวิตร ออกมาแนะนำให้พล.อ.ประวิตร ลาออกเรื่องการชี้แจงนาฬิกาหรู ว่า ก็มีนักข่าวมาถามผม แต่ผมไม่ได้แนะใครให้ลาออก เพียงแต่บอกว่าถ้าเป็นผม ผมลาออก เมื่อเป็นความผิดแล้วที่ไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ก็ลาออก ไม่ต้องไปรอผลการพิจาณาของปปช. เพราะทำผิดไปแล้ว ส่วนเรื่องการยืมนาฬิกใส่นั้น ผมไม่ทราบ ใครจะยืมใคร เรื่องนี้ต้องวงในคลุกคลีกันมากถึงจะรู้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวยอมรับว่าสนิทกับ นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนเซนต์คาเบรียล เป็นเพื่อนกัน เป็นพาร์ทเนอร์ของผมทางธุรกิจ แต่ไม่ได้คลุกคลีกัน ถามว่าสนิทไหมก็สนิทในทางธุรกิจ แต่ใครยืมนาฬิกาใครนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เหมือนเป็นวงเล็กๆที่เขาคุยกัน แต่นายปัฐวาทเป็นคนที่ชอบและสะสมนาฬิกาจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าให้พล.อ.ประวิตร ยืมหรือไม่
“สถานการณ์บีบคั้นขนาดนี้เป็นผมลาออกดีกว่า ต้องดูว่าประชาชนเขาคิดอย่างไร นักการเมืองต้องอยู่กับความคิดของประชาชน ถ้าประชาชนยอมรับก็อยู่ได้ แต่ถ้าประชาชนไม่ยอมรับก็อยู่ไม่ได้ ไม่มีความสุข ไปไหนก็อึดอัด ผมฝากคนไปบอกถึงท่านแล้วว่า มีชีวิตที่มีความสุขอยู่ได้ให้รักษาชื่อเสียงไว้ เพราะเขายังไม่เคยกล่าวหาเรื่องทุจริต คอรัปชั่น ก็ถือว่าชื่อเสียงวงศ์ตระกูลก็ยังดีอยู่ เรื่องการไม่แจ้งนาฬิกาไม่ใช่เรื่องทุจริต เป็นเรื่องผิดกฎเกณฑ์ แต่ถ้าอยู่นานๆ แล้วทำให้คนทั่วไปไม่เชื่อ ในที่สุดก็จะเสีย”
ด้าน นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตส.ว. ส่งหนังสือถึงอธิบดีศุลกากร-สรรพากร ขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร โดยระบุว่า ขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีของนาฬิกาที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณสวมใส่ทั้ง25เรือน การที่พลเอกประวิตรให้สัมภาษณ์ว่านาฬิกาทั้งหมดยืมเพื่อนมาและคืนไปหมดแล้วนั้นไม่เป็นเหตุทำให้กรมศุลกากรและกรมสรรพากรยุติการตรวจสอบ เพราะเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าหลายสิบล้านบาท ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 157(4)ให้อำนาจพนักงานศุลกากรมีหนังสือเรียกผู้นำของเข้ามาตรวจสอบหากมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายศุลกากร
การที่นาฬิกาหรูเป็นนาฬิกาที่ผลิตในต่างประเทศและพลเอกประวิตรสวมใส่นั้น ในเบื้องต้นต้องถือว่าพลเอกประวิตรเป็นผู้นำเข้า อธิบดีกรมศุลกากรมีอำนาจออกหนังสือแจ้งให้พลเอกประวิตรมาตรวจสอบว่ามีการเสียอากรขาเข้าถูกต้องหรือไม่ หากพลเอกประวิตรให้การว่ายืมนายก. นายข.มาสวมใส่ ตนไม่ใช่ผู้นำเข้า พลเอกประวิตรต้องพิสูจน์ให้สิ้นสงสัย โดยการนำนายก.นายข.นั้นมายืนยันพร้อมหลักฐานที่นายก.นายข.ซื้อมาจากร้านในต่างประเทศ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษีและใบรับประกัน หากไม่มีหลักฐานดังกล่าวนี้ มีแต่ข้ออ้างลอยๆว่าเป็นของนายก.นายข.ก็ไม่อาจรับฟังได้ว่าเป็นนาฬิกาของนายก. นายข.และต้องถือว่าเป็นนาฬิกาของพลเอกประวิตร
“จึงขอให้อธิบดีกรมศุลกากรและกรมสรรพากรปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และเป็นไปตามดำริที่ท่านนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ให้กลไกการตรวจสอบที่มาของนาฬิกาหรูเหล่านั้นดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมาย การดำเนินการหรือไม่ดำเนินการของอธิบดีทั้ง2กรมฯจะเป็นข้อพิสูจน์ว่ากลไกตรวจสอบตามกฎหมายที่ท่านนายกรัฐมนตรีกล่าวอ้างถึงนั้น จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ เมื่อผู้ที่ต้องถูกตรวจสอบอยู่ในตำแหน่งระดับสูงรองมาจากตำแหน่งของท่านนายกรัฐมนตรี”