“พาณิชย์”ชี้ตลาดเพชรปี61ฟื้นตัว
“พาณิชย์” ชี้ตลาดเพชรปี 61 มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังผู้จำหน่ายชั้นนำลงทุนด้านประชาสัมพันธ์มากขึ้น แนะผู้ประกอบการไทยหาทางลอยตามน้ำ เกาะกระแสขาขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขาย และสร้างโอกาสในการดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการเจียระไนและลงทุนในไทยให้ได้เพิ่มมากขึ้น
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยจากรายงานของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน ว่า บริษัทให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ Bain & Company ได้ประเมินว่าแนวโน้มตลาดการค้าเพชรในปี2561 ว่า จะขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปี2560 ที่ผ่านมาเพราะตลาดเครื่องประดับเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐฯ จะกลับมาขยายตัวดีขึ้น หลังจากอ่อนตัวต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจจีนตกต่ำ โดยในปีนี้ คาดว่า ตลาดเพชรโลกจะเริ่มกลับมาบริโภคอีกครั้ง ขณะที่กลุ่มเจ้าของเหมืองก็ยืน ยันว่าธุรกิจเริ่มกลับมาดีขึ้น หลังจากที่เทขายเพชรค้างสต๊อกออกมาก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าปีนี้ จะสามารถขุดเพชรได้สูงถึง 134 ล้านกะรัต
ทั้งนี้ในปี2561 กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายเพชรรายสำคัญของโลกเช่น De Beers และ Tiffany ได้มีการวางแผนที่จะลงทุนด้านการประชาสัมพันธ์สูงถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 50% ซึ่งตัวเลขนี้ ยังไม่รวมปริมาณการลงทุนด้านการประชาสัมพันธ์ของกลุ่มค้าปลีก โดยเป้าหมายการประชาสัมพันธ์เพื่อที่จะชักจูงให้ผู้บริโภคใช้ เพชรจากธรรมชาติต่อไป แทนที่จะใช้เพชรที่ถูกผลิตขึ้นในห้องแล็ป (เพชรเทียม) ทำให้แนวโน้มการค้าเพชรน่าจะกลับมาคึกคักได้
“จากแนวโน้มข้างต้น ทำให้ประเมินได้ว่า ราคาเพชรและเครื่องประดับ High-end ที่ใช้เพชรเป็นส่วนประกอบจะมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น เพราะผู้จำหน่ายชั้นนำจำนวนหนึ่ งเริ่มหันมาลงทุนด้านประชาสัมพั นธ์กันมากขึ้น จึงถือเป็นโอกาสดีที่ผู้ ประกอบการไทยจะใช้เทรนด์นี้ให้ เป็นประโยชน์ และหาทางลอยตามน้ำไปด้วย หรืออาจจะลงทุนประชาสัมพันธ์เป็ นพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดจำหน่ายสินค้า” นางจันทิรากล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณีที่บริษัทเจียระไนเพชรในอินเดียกำลังประสบปัญหาความไม่ลงรอยกันของกลุ่มผู้ผลิตเครื่องประดับ และปัญหาที่เกิดขึ้นกับธุรกิจเครื่องประดับที่มีการทำธุรกิจไม่โปร่งใส กรมฯ เห็นว่า ไทยควรจะใช้โอกาสนี้ในการดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการเจียระไนที่ไทย หรือลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า เพื่อสร้างโอกาสในการค้าขายสินค้าเพชรของไทย
ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ของปี 2560 ไทยมีการส่งออกเพชรไปยังตลาดโลก มีมูลค่าเกือบ 5 หมื่นล้านบาท ลดลง 9%จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า มีตลาดนำเข้าหลักของไทย ได้แก่ อันดับ1 ฮ่องกง (ร้อยละ 44) 2.เบลเยียม(ร้อยละ 18) 3.อินเดีย (ร้อยละ 11) 4.อิสราเอล (ร้อยละ 6.9) 5.UAE (ร้อยละ 5.5)
และหากมองในภาพรวมสินค้าอัญมณี และเครื่องประดับ ในช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ของปี 2560 ไทยมีการส่งออกสินค้าดังกล่าวมี มูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า มีตลาดนำเข้าหลักของไทย ได้แก่ อันดับ 1 สวิตเซอร์แลนด์ (ร้อยละ 28) 2.ฮ่องกง (ร้อยละ 20) 3.สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 9) 4.กัมพูชา(ร้อยละ 5.4) 5.สิงคโปร์ (ร้อยละ 5) โดยเยอรมนีนำเข้าอัญมณีและเครื่ องประดับจากไทย ในลำดับที่ 6 (ร้อยละ 4.8) มีมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท.