“เสี่ยแฮงค์” ชี้ การบังคับ ขู่เข็ญ ไม่ใช่ ปชต.
“อนุชา” ชี้ ความเห็นที่แตกต่างในสังคมประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ระบุการบังคับขู่เข็ญไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง วอนหันหน้าหาทางออกร่วมกัน เพื่อประเทศชาติ
(20 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ จะมีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่นั้นว่า มติที่ประชุมร่วมเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบเพียงให้ยื่นแค่ขอเปิดประชุมรัฐสภาเท่านั้น ไม่ได้ระบุว่าเป็นวันไหน เพราะต้องมีขั้นตอน ในการออกพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ซึ่งยังไม่ทราบขั้นตอนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่ง ครม. จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้เวลากี่วัน ซึ่งเมื่อเปิดประชุมฯ แล้วต้องพูดคุยกัน โดยยังไม่ได้สรุปประเด็นว่าจะพูดคุยหารือในประเด็นใดบ้าง แต่ทุกปัญหาจะนำเข้าสู่ที่ประชุม
สำหรับกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะยังไม่รอการประชุมของรัฐสภา เพราะมีการยื่นเงื่อนไข ให้ทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ภายใน 24 ชั่วโมงนั้น นายอนุชา กล่าวว่า เป็นความเห็นที่แตกต่าง ยืนยันว่าความเห็นที่แตกต่างจะต้องนำไปพิจารณาในสภา เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเรื่องของรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องอื่น ๆ เป็นเพียงข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ตนพูดในฐานะสมาชิกรัฐสภา
ทั้งนี้ ในสังคมประชาธิปไตยการเรียกร้องเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าการบังคับหรือขู่เข็ญไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง และบางเรื่องแต่ละพรรคการเมืองมีจุดยืนอยู่แล้ว เช่น ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน จึงอยากฝากถึงผู้ชุมนุมและนักศึกษาว่าสิ่งที่เราพยายามทำนั้นทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่ทุกความเห็นจะต้องไปในทิศทางเดียวกันคงต้องมาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ทุกคนอยากเห็นว่าเวทีรัฐสภา สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้หรือไม่ในฐานะนักการเมืองเราอยากทำตรงนั้นให้เกิดขึ้น ส่วนตัวคิดว่าอาจใช้เวลาพูดคุยในสภาประมาณ 1-3 วัน เชื่อว่าคงได้ข้อสรุปว่าจะไปในทิศทางไหน
นายอนุชา กล่าวว่า แม้เวลาแค่ 1-2 ชั่วโมง เราก็เห็นตรงกันว่ามีค่าสำหรับการพูดคุยกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน เราจะมีมติออกมาร่วมกัน ซึ่งนักการเมืองทุกคนก็อยากเห็นความสงบสุข หากการประชุมผ่านไปแล้วแต่ม็อบยังคงอยู่ ค่อยหาวิธีที่จะมีบทสรุปร่วมกันอย่างสันติวิธีต่อไป