กว่า 22 ล้านเลือกตั้งล่วงหน้าในสหรัฐฯ
ชาวอเมริกันกว่า 22 ล้านคนหย่อนบัตรเลือกตั้งลงคะแนนเสียงล่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯไปแล้ว จากรายงานของสำนักข่าวเอพี
คิดเป็นสัดส่วน 16% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมดที่มาใช้สิทธิ์ในปี 2559 จากรายงานของสื่อ
ผลของการเลือกตั้งล่วงหน้า ( ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการระบาดของโควิด-19) ที่มีจำนวนมาก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญการเลือกตั้งทำนายว่า จะมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากเป็นประวัติการณ์ถึง 150 ล้านคนในปีนี้ และอัตราตัวเลขผู้มาใช้สิทธิ์จะสูงที่สุดนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯตั้งแต่ปี 2451 เป็นต้นมา
ในการปราศรัยหาเสียงที่แมคอน รัฐจอร์เจีย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า “ เรามีเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด” ในโลก
“ เศรษฐกิจของเรากำลังสร้างสถิติ” เขากล่าวกับกลุ่มผู้สนับสนุน
“ผมจะไม่ล้มเลิกในสิ่งที่เราประสบความสำเร็จ ไม่มีใครประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์ของประเทศเราได้เท่ากับที่เราทำได้ ทั้งการทหาร การลดภาษี กองทัพอวกาศ”
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงทรัมป์จากพรรคเดโมแครตกล่าวโจมตีทรัมป์อีกครั้ง โดยกล่าวหาว่าประธานาธิบดีเป็นผู้สร้างความเกลียดชังและความแตกแยกในสหรัฐฯ
ในการปราศรัยหาเสียงที่ดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ไบเดนกล่าวโน้มน้าวใจให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งที่มีความสำคัญมากครั้งนี้
ในรัฐจอร์เจีย มีประชาชนกว่า 1 ล้านคนที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้ว โดยการเลือกตั้งล่วงหน้าในรัฐนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ 12 ต.ค.
โดยรัฐนี้เป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน และการหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 30 ต.ค. ทั้งนี้ ไบเดนกำลังพยายามสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้ชนะครั้งแรกในรอบ 30 ปีในรัฐจอร์เจียแห่งนี้
โพลส่วนใหญ่ชี้ถึงคะแนนที่ไล่เลี่ยกันในรัฐสมรภูมิสำคัญที่ทั้งสองพรรคกำลังขับเคี่ยวล่าคะแนนเสียงอย่างหนัก
ในการปราศรัยหาเสียงที่โอคาลา เมืองทางตอนกลางของรัฐฟลอริดา ทรัมป์เน้นย้ำกับผู้สนับสนุนหลายพันคนว่า “ผมอาศัยอยู่ที่ที่นี่ด้วย” โดยเขาเพิ่งกลับมาจากบ้านพักในนิวยอร์ก
โดยทรัมป์ย้ำว่า ภายใน 18 วันนี้ “ เราจะชนะในรัฐฟลอริดา เรากำลังจะชนะเพื่อทำเนียบขาว” ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ทรัมป์ชนะในรัฐฟลอริดา