เมียนมาล็อกดาวน์ย่างกุ้ง
ย่างกุ้ง – เมียนมาล็อกดาวน์พื้นที่ส่วนใหญ่ของย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุด เป็นเวลาสองสัปดาห์เพื่อควบคุมไม่ให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอีกก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. คณะกรรมการกลางของเมียนมาในการควบคุมโควิด-19 มีคำสั่งให้ประชาชนอยู่บ้าน อนุญาตให้สมาชิกเพียงหนึ่งคนของแต่ละครัวเรือนออกไปซื้อของได้ และคุมเข้มการเดินทางจากเมืองย่างกุ้งไปยังเมืองอื่นๆยกเว้นเฉพาะธุระจำเป็น
โดยอนุญาตให้บริการสำคัญ ทั้งธนาคาร โรงพยาบาล สถานีบริการน้ำมัน และร้านขายอาหารยังคงเปิดทำการตามปกติ ขณะที่พนักงานบริษัทเอกชนและองค์การต่างๆ ขอให้ทำงานอยู่ที่บ้าน และเจ้าหน้าที่รัฐได้รับอนุญาตให้สลับเวียนกันทำงานที่บ้านได้เช่นกัน
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ข้อมูลทางการระบุว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 671 ราย ทำสถิติสูงที่สุดในวันเดียวสำหรับเมียนมา นับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. ที่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกในเมียนมา ซึ่งมีจำนวนประชากรทั้งประเทศ 54 ล้านคน
มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นอีก 11 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในเมียนมาอยู่ที่ 94 ราย
พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองย่างกุ้งและรัฐยะไข่ ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเมียนมา มีการบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม พร้อมกับการห้ามเดินทางในประเทศตั้งแต่ 10 ก.ย.เป็นต้นมา
ภูมิภาคย่างกุง ซึ่งมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจคิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 ของจีดีพีเมียนมา และ 30% ของการลงทุนทั้งหมด เป็นที่ตั้งของเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา และ 29 นิคมอุตสาหกรรม จากข้อมูลของกระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศ
เมียนมากำลังเร่งสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งทะยานขึ้นเป็น 5,805 รายจนถึงเช้าวันที่ 21 ก.ย. ก่อนหน้าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. ทำให้พรรคการเมืองประมาณ 40 กว่าพรรคเรียกร้องให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่พรรครัฐบาลคือ National League for Democracy ยังคงเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามกำหนดการเดิม โดยที่ปรึกษาแห่งรัฐคือนางอองซาน ซูจีระบุว่า การแพร่ระบาดสามารถควบคุมได้ด้วยมาตรการรักษาระยะห่างที่เคร่งครัด
ข้อกำหนดสำคัญอื่นๆ ของคำสั่งล็อกดาวน์คือ ไม่ให้ผู้ใดสัญจรอยู่บนท้องถนน ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากทางการ รถยนต์ต้องมีผู้โดยสารมากกว่าสองคน โรงงานทุกแห่งต้องปิดตั้งแต่ 24 กย. – 7 ต.ค. และทุกคนที่อยู่ภายใต้มาตรการกักตัว ต้องแยกกักตัวอยู่ที่บ้านนาน 1 สัปดาห์หลังตรวจพบว่าไม่ติดเชื้อ