สหรัฐฯดับจากโควิด-19 ทะลุ 2 แสนคน
วอชิงตัน : เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ พุ่งสูงเกิน 200,000 ราย สูงมากกว่าสองเท่าสำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตในอินเดีย ซึ่งมีรายงานผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลกเป็นอันดับสอง
ค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในสหรัฐฯ ในปัจจุบันคือ มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ประมาณ 800 รายต่อวัน จากรายงานของสื่อรอยเตอร์ ลดลงจากที่เคยพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2,806 รายต่อวันในวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา
ในช่วงเดือนแรกๆของการระบาด ยอดผู้เสียชีวิต 200,000 รายถือเป็นตัวเลขคาดการณ์สูงที่สุดจากแนวโน้มการระบาดในสหรัฐฯ
โดยก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวปกป้องวิธีการรับมือกับวิกฤตของเขา เขายอมรับว่าประเมินความร้ายแรงของไวรัสโคโรนาต่ำเกินไปในช่วงแรก เพราะเขาไม่ต้องการจะ “สร้างความตื่นตระหนก” ให้กับประชาชน
ไม่ถึง 6 สัปดาห์จะถึงวันเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯในวันที่ 3 พ.ย. ทรัมป์ยังตามหลังโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตในระดับประเทศของโพลรายใหญ่ และยังตามอยู่แบบหายใจรดต้นคอในรัฐสวิงสเตทสำคัญ การรับมือกับการแพร่ระบาดและเศรษฐกิจตกต่ำทำให้เขาสูญเสียฐานเสียงสนับสนุนเขาค่อนข้างมาก
ทรัมป์มักจะตั้งคำถามกับคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ในทุกอย่าง ตั้งแต่กำหนดเวลาของการพัฒนาวัคซีนไปจนถึงการเปิดเรียนและธุรกิจที่ต้องสวมหน้ากากอนามัย โดยเขาปฏิเสธที่จะสนับสนุนการบังคับสวมหน้ากากอนามัยทั้งประเทศ และมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองขนาดใหญ่ซึ่งผู้เข้าร่วมน้อยคนที่จะสวมหน้ากาก
โรเบิร์ต เรดฟีลด์ ผอ.ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เพิ่งชี้แจงกับสภาคองเกรสว่า การสวมหน้ากากอนามัยเป็นการป้องกันได้มากกว่าวัคซีน ซึ่งจะได้ใช้อย่างทั่วถึงในช่วงไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 ของปี 2564
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยระบุว่าจะมีวัคซีนในไม่กี่สัปดาห์ และก่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. แต่เมื่อวันที่ 18 ก.ย. เขาระบุว่า คาดการณ์ว่าชาวอเมริกันทุกคนจะมีวัคซีนภายในเดือนเม.ย.ปีหน้า
โดย CDC ทำนายว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯจะสูงถึง 218,000 รายภายใน 10 ต.ค. ขณะที่สถาบันสุขภาพของมหาวิทยาลัยวอชิงตันคาดการณ์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจะสุงถึง 378,000 รายภายในปี 2563 นี้ และตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันจะพุ่งทะยานถึง 3,000 รายต่อวันในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ กว่า 70% ของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯมีอายุมากกว่า 65 ปี จากข้อมูลของ CDC
รัฐทางใต้อย่างเท็กซัสและฟลอริดามีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และตามมาติดๆคือรัฐแคลิฟอร์เนีย
รัฐแคลิฟอร์เนีย เท็กซัสและฟลอริดา ( ซึ่งเป็น 3 รัฐที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในสหรัฐฯ ) มียอดผู้ติดเชื้อสูงที่สุด และสูงแซงรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในช่วงต้นของปีนี้ โดยสหรัฐฯมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยกว่า 40,000 รายต่อวัน
ในขณะที่กำลังต่อสู้กับการติดเชื้อในระลอกสอง สหรัฐฯรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น 17% ในสัปดาห์ก่อน เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7% ในสัปดาห์ล่าสุด จากการวิเคราะห์ของรอยเตอร์
มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา 6 รายต่อประชากร 10,000 คนในสหรัฐฯ จากข้อมูลของรอยเตอร์ เป็นหนึ่งในอัตราที่สูงที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ขณะที่บราซิลมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รวมทั้งหมดกว่า 136,000 ราย เป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ