จีนล็อกดาวน์เมืองชายแดนติดเมียนมา
ปักกิ่ง : เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ทางการจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองที่มีพรมแดนติดเมียนมา และจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนจำนวนมาก หลังจากตรวจพบการติดเชื้อจำนวนหนึ่งที่เมืองนั้น
โดยมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อ 3 รายในเมืองรุ่ยลี่ มณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นเมืองที่มีจุดผ่านแดนติดกับประเทศเมียนมา
ทางการเมืองรุ่ยลี่ของจีนออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ว่า ให้พลเมืองอยู่บ้านและห้ามเดินทางเข้าและออกจากเมืองตั้งแต่เย็นวันที่ 14 ก.ย. โดยระบุว่า ชาวเมืองทุกคนกว่า 210,000 คนจะได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา
ธุรกิจปิดหมด ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา และตลาดสด
มีการนำเชื้อโควิด-19 มาจากเมียนมา และทางการจีนจะสกัดและปราบปรามผู้อพยพผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด
เมืองรุ่ยลี่มีแม่น้ำคั่นกลางจากเมืองชายแดนมูเซ ซึ่งเป็นเมืองในเมียนมาที่เป็นประตูสู่จีน เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านลบ มีการลักลอบซื้อขายอาวุธเถื่อน มีบ่อนการพนันและยาเสพติด
รองนายกเทศมนตรีเมืองรุ่ยลี่กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ว่า ทางเมืองจะเนรเทศผู้ที่ไม่สามารถระบุที่อยู่อาศัยและสถานที่ทำงานในช่วงเวลาที่มาถึงจีนได้
ที่ผ่านมา จีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสจากมาตรการควบคุมการเดินทางของพลเมือง และมาตรการล็อกดาวน์ที่เคร่งครัด โดยเริ่มที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของจีนและเป็นเมืองแรกที่ไวรัสโควิด-19 อุบัติขึ้นเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกในประเทศจีนในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ รวมทั้งในกรุงปักกิ่งด้วย
โดยจีนยังปิดพรมแดน ไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา และการติดเชื้อส่วนใหญ่ในช่วงไม่กี่เดือนนี้ เป็นชาวจีนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศจีน 7 รายในวันที่ 15 ก.ย. โดยทั้งหมดมาจากประเทศอื่น
ทั้งนี้ เมียนมาเป็นพื้นที่สำคัญของนโยบาย Belt and Road Initiative ( วิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ครอบคลุมพื้นที่ทางทะเล โครงการรถไฟและถนนทั่วเอเชีย แอฟริกาและยุโรป ) รวมทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงมูลค่า 8,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากยูนนานไปฝั่งตะวันตกของเมียนมา