ฝรั่งเศสติดเชื้อเพิ่ม แต่ตั้งเป้าไม่ล็อกดาวน์
ปารีส : เมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายกรัฐมนตรีฌอง กัสแตกซ์แห่งฝรั่งเศสเตือนว่า ประเทศฝรั่งเศสกำลังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากขึ้น แต่รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์อีก เนื่องจากจะกระทบกับเศรษฐกิจ
ในแถลงการณ์หลังจากมีการประชุมระหว่างบรรดารัฐมนตรีและผู้เชี่ยวชาญ นายกฯกัสแตกซ์ไม่ได้ประกาศมาตรการคุมเข้มรอบใหม่ แต่สัญญาว่าจะมีการตรวจหาเชื้อที่มีประสิทธิภาพ และชี้ว่าขึ้นอยู่กับรัฐบาลท้องถิ่นที่จะตัดสินใจมาตรการเพิ่มเติม
มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 10,000 รายในช่วงสองวันล่าสุด เป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการตรวจหาเชื้อเป็นจำนวนมาก แต่นายกฯ ฝรั่งเศสระบุว่า จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นนั้นน่ากังวล
“ เราประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตอยู่กับไวรัส โดยจะไม่พยายามกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์อีก” เขาระบุในการแถลงทางโทรทัศน์จากทำเนียบนายกฯในกรุงปารีส
“ ยุทธศาสตร์ของเราไม่เปลี่ยนแปลง เราต้องสู้กับไวรัสโดยไม่กระทบกับสังคม วัฒนธรรม และชีวิตเศรษฐกิจของเรา การศึกษาของเด็กๆของเรา และความสามารถของเราในการใช้ชีวิตตามปกติ” เขาเสริม
กัสแต็กซ์ระบุว่า 42 จากทั้งหมด 101 พื้นที่ถูกจัดให้เป็น “พื้นที่สีแดง” ซึ่งไวรัสกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นจากเดิม 28 พื้นที่ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้
เขาไม่ได้ประกาศมาตรการคุมเข้มรอบใหม่ แต่ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และสวมหน้ากากอนามัย และลดช่วงเวลาการกักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงลงเหลือเพียง 7 วันจากเดิม 14 วัน เพื่อให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงสูงของการแพร่ระบาด
ทางการมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นในฝรั่งเศส แม้ยอดผู้เสียชีวิตและอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลยังต่ำกว่าตัวเลขที่เป็นสถิติสูงสุดในเดือนมี.ค. – เม.ย.
กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,406 รายในวันที่ 11 ก.ย. (หลังจากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,843 รายในวันที่ 10 ก.ย.) นับเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการตรวจหาเชื้อจำนวนมาก
โดยฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้งหมด 30,893 ราย หลังจากมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 40 รายในโรงพยาบาล
ฌอง-ฟรองซัวส์ เดลเฟรซีย์ ผอ.สภาวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้รัฐบาลเรื่องโรคระบาดระบุเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ว่า รัฐบาลอาจต้องมีการตัดสินใจที่เข้มงวดขึ้นเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส
ประชาชนกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือกลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ภาวะน้ำหนักตัวเกินและระบบทางเดินหายใจ
ทั้งนี้ ตัวนายกฯกัสแตกซ์เอง ซึ่งอยู่ในช่วงกักตัวเองเป็นเวลา 7 วัน ได้ใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์กับคริสเตียง พรูดอมม์ ประธานการจัดการแข่งขันจักรยานตูร์เดอฟรองซ์ ซึ่งตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19