ทรัมป์นำโด่งฉุดราคาน้ำมันตก
ราคาน้ำมันดิ่งลงเมื่อวันที่ 9 พ.ย. จากการนับคะแนนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ที่ชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันมีคะแนนนำและกำลังมุ่งหน้าสู่ชัยชนะ
ตลาดน้ำมันดิบขานรับข่าวอันน่าแปลกใจอย่างยิ่งที่นายทรัมป์สามารถขึ้นนำนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตในการแข่งขันครั้งสำคัญของประเทศและเปิดทางสู่ทำเนียบขาว
ตลาดน้ำมันดิบเท็กซัสของสหรัฐฯ ร่วงลงไปอยู่ที่ 43.07 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยลดลงมากกว่า 4% จากที่เคยลงไปต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.ย. ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาอยู่ที่ 43.26 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในช่วงปิดตลาด
ตลาดน้ำมันดิบระหว่างประเทศเบรนท์ก็ปรับลดลง 3.3% มาอยู่ที่ 44.51 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
“ นี่เป็นเหมือนเดจาวูของช่วงเวลาของเบร็กซิท ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก ” นายบ็อบ ทาคาอิ ประธานบริษัท Sumitomo Corp Global Research ในกรุงโตเกียวกล่าวอ้างถึงผลการลงประชามติที่สหราชอาณาจักร ตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดมาแล้ว
ในขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลง แต่ราคาทองคำซึ่งเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยของนักลงทุนส่วนใหญ่กลับพุ่งขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลอื่น
“ นักลงทุนย้ายไปลงทุนในตลาดที่มีความเสี่ยงน้อย การที่ทรัมป์ขนะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะสร้างผลกระทบด้านลบกับราคาน้ำมันแน่นอน ” นายจามีล อาหมัด รองประธานฝ่ายวิจัยตลาดของบริษัท FXTM
“ ปัจจัยที่กระทบต่อการขยายตัวจะลดลงเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากความไม่แน่ใจของนักลงทุนที่สั่นคลอนดีมานด์ในโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน ”
นายทรัมป์มีคะแนนชนะในรัฐซึ่งเป็นสมรภูมิสำคัญในการชิงชัย เช่น โอไฮโอ ฟลอริดา นอร์ธแคโรไลนา และจอร์เจียและนำนางคลินตันในอีกหลายรัฐที่ยังไม่ประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ มีรายงานจาก American Petroleum Institute (API) ที่ชี้ว่า ปริมาณการลงทุนในน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเป็น 4.4 ล้านบาร์เรลมีผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 35.07 บาท / 9 พ.ย. 2559