เสี่ยงฟองสบู่อสังหาฯ มากสุดในแวนคูเวอร์
เมืองแวนคูเวอร์ ลอนดอน และสต็อกโฮล์มอยู่ใน 3 อันดับที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะเกิดภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์หลังจากราคาพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องใน 5 ปีที่ผ่านมา อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของ UBS Group AG
เมืองซิดนีย์ มิวนิก และฮ่องกง ก็กำลังใกล้เข้าสู่สภาวะเสี่ยงเช่นกัน UBS ให้ความเห็นในรายงานดัชนีฟองสบู่อสังหาฯ ทั่วโลกปี 2559 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา เมืองซานฟรานซิสโกเป็นเมือง
ในสหรัฐฯ ที่ติดอันดับเป็นเมืองที่ราคาบ้านพุ่งสูงเกินจริงสูงสุดในตลาดบ้านสหรัฐฯ แต่ยังไม่ถึงขนาดมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะฟองสบู่
โดยราคาบ้านในหลายเมืองที่เข้าใกล้ภาวะฟองสบู่พุ่งสูงขึ้นเฉลี่ยเกือบ 50% ตั้งแต่ปี 2554 โดยอัตราดอกเบี้ยต่ำ เงินทุนไหลเข้าจากทั่วโลก และการมองในแง่บวกของนักลงทุนเกี่ยวกับผลกำไรที่จะได้ช่วยหนุนให้มูลค่าบ้านพุ่งสูงขึ้น อ้างอิงจากรายงาน
“ ความเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจมหภาค การสลับสับเปลี่ยนของความอ่อนไหวของนักลงทุน หรือซัพพลายที่เพิ่มขึ้นอาจช่วยให้ราคาบ้านลดลงอย่างรวดเร็ว ” อ้างอิงจาก UBS
“ นักลงทุนในตลาดที่มีมูลค่าเกินจริงไม่ควรคาดหวังถึงความพึงพอใจในราคาจริงในระยะกลางและระยะยาว ”
ทั้งนี้ เมืองแวนคูเวอร์พุ่งขึ้นจากอันดับ 4 ในปี 2558 ขึ้นมาเป็นที่ 1 ในปีนี้ โดยราคาบ้านในเมืองใหญ่ของประเทศแคนาดาปรับเพิ่มขึ้น 2 เท่าในทศวรรษที่ผ่านมา ก่อให้เกิดการโวยวายจากบรรดาครอบครัวในประเทศที่ต้องดิ้นรนในการหาที่อยู่อาศัยที่ราคาพุ่งไม่หยุด
โดยในเดือนส..ค. บ้านเดี่ยวแบบธรรมดาสำหรับครอบครัวเดี่ยวมีราคาถึง 1.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อ้างอิงจากบอร์ดอสังหาริมทรัพย์ของ Greater Vancouver ทั้งนี้ รัฐบาลเมืองแวนคูเวอร์ขึ้นภาษีเป็น 15% สำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติเพื่อเป็นการช่วยให้ราคาบ้านปรับลดลง
ทาง UBS รายงานว่า เมืองใหญ่ในยุโรปก็มีราคาบ้านที่สูงเกินมูลค่าจริง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำช่วยหนุนให้ความต้องการบ้านในเขตตัวเมืองพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้เมืองอัมสเตอร์ดัม ซูริก ปารีสและเจเนวา ก็ติดอันดับในดัชนีที่บ้านมีราคาสูงขึ้น
เมืองชิคาโกของสหรัฐฯ อยู่ในอันดับล่างสุดของดัชนีนี้ เนื่องจากราคาบ้านยังไม่ฟื้นจากภาวะถดถอย
ในผลสำรวจนี้ ไม่ได้รวมถึงจีน ซึ่งราคาที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่กำลังบูม เนื่องจากขาดข้อมูลที่คงเส้นคงวา อ้างอิงจากอีเมลของ UBS
ในรายงานของ UBS แสดงให้เห็นว่า ในเมืองสำคัญส่วนใหญ่ทั่วโลก การจะซื้ออพาร์ทเมนท์ขนาด 60 ตารางเมตรเป็นเรื่องที่เอื้อมไม่ถึงสำหรับประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยปานกลางในภาคบริการที่มีทักษะสูง.