สะพรึง! พิษโควิด ตกงานกว่า 3.3 ล้านคน
โควิด-19 ทำพิษ ครึ่งปีแรกลูกจ้างในระบบตกงานกว่า 3.3 ล้านคน ด้านเอกชนเสนอ 7 ข้อ วอนรัฐลดเงินสมทบประกันสังคมเหลือ 1% ถึงสิ้นปี 63 ช่วยเหลือนายจ้าง-ลูกจ้าง
จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สถานประกอบการใช้มาตรา 75 หยุดกิจการชั่วคราว นับตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2562 ถึงเดือนกรกฎาคม 2563 โดยมีสถานประกอบการหยุดกิจการชั่วคราว 4,458 แห่ง ส่งผลกระทบต่อลูกจ้างสูงถึง 896,330 คน และลูกจ้างที่ว่างงานจากกรณีลาออก เลิกจ้างจากการปิดกิจการ 332,060 คน รวมทั้ง มีผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 ที่ใช้สิทธิประโยชน์กรณีว่างงานฯ 62% กว่า 1,369,589 คำร้อง นั้น
นายสุชาติ จันทรนาคราช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานคณะอนุกรรมการมาตรการแรงงาน COVID-19 คาดว่า จะมีผู้ว่างงานจะมีเพิ่มขึ้นอีก กว่า 800,000 คน ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม 2563 หากมีการขยายมาตรการฯ รวมแล้วจะมีลูกจ้างในระบบที่ได้รับผลกระทบกว่า 3,397,979 คน ทั้งนี้คาดว่าทั้งปีมีโอกาสที่จำนวนการเลิกจ้างจะสูงถึงประมาณ 7-8 ล้านคน ดังนั้นภาคเอกชนจึงขอเสนอมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือและเยียวยา 7 ข้อ ดังนี้
1) ลดเงินสมทบประกันสังคมทั้งฝั่งนายจ้างและลูกจ้างเหลือร้อยละ 1 โดยให้มีผลจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
2) เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย จาก 90 วัน เป็น 150 วัน และขยายระยะเวลาการขอรับสิทธิประโยชน์ จากเดิมวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เป็นจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
3) เร่งพิจารณาการอนุมัติให้สามารถปรับการจ้างงานเป็นรายชั่วโมงได้ โดยคิดค่าจ้างในอัตราชั่วโมงละ 40-41 บาทต่อชั่วโมง ระยะเวลาจ้างขั้นต่ำ 4-8 ชั่วโมงต่อวัน
4) ขอให้ภาครัฐเร่งพิจารณาการรับรองการอบรมออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการจัดอบรม ตาม พ.ร.บ. ส่งเสรมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545
5) ขอปรับอัตราเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ตาม พ.ร.บ. เงินทดแทน พ.ศ. 2537 เหลือร้อยละ 0.01
6) โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ ดอกเบี้ยร้อยละ 0.1 ต่อปี
7) จัดสรรกองทุนเยียวยาผู้ประกอบการเพื่อรักษาเสถียรภาพการจ้าง โดยให้เงินเยียวยาแก่ลูกจ้างผ่านนายจ้าง
นอกจากนี้ ขอให้สํานักงานเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาบรรจุโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประสิทธิภาพแรงงาน Upskill/Reskill ให้อยู่ภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ (งบ 400,000ล้านบาท) เพื่อรับรองการเปลี่ยนแปลงในยุค New Normal