เฟซบุ๊กคุมโฆษณาการเมืองโปร่งใส
ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอย่างเฟซบุ๊กประกาศมาตรการที่จะทำให้การลงโฆษณาเกี่ยวกับการเมืองบนแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดียมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น
โดยผู้ลงโฆษณาทางการเมืองจะต้องสามารถตรวจสอบตัวตนและที่อยู่และในสิ่งที่โพสต์ นอกจากนี้จะต้องเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า ผู้ใดเป็นคนที่จ่ายค่าโฆษณาชิ้นนี้
ขั้นตอนเหล่านี้มีขึ้นท่ามกลางการกล่าวหาว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังกลุ่มที่ลงโฆษณาบนโซเชียลมีเดียเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในปี 2559
ผู้บริหารเฟซบุ๊กและยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตจะเข้าให้ปากคำในการไต่สวนของวุฒิสภาในวันที่ 31 ต.ค.นี้
“ เมื่อจะลงโฆษณาบนเฟซบุ๊ก คนที่ลงต้องสามารถบอกได้ว่าใครคือผู้จ่ายค่าโฆษณา และดูโฆษณาที่จะลง โดยเฉพาะโฆษณาทางการเมือง ” ร็อบ โกลด์แมน รองประธานของเฟซบุ๊กด้านโฆษณาโพสต์ระบุในบล็อก
โดยการคลิกดูว่าใครเป็นผู้จ่ายค่าลงโฆษณานี้ ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจะสามารถเห็นรายละเอียดได้มากขึ้นเกี่ยวกับผู้ลงโฆษณา เขาเสริม
จะเริ่มมีการทดสอบระบบการใช้งานนี้ก่อนในแคนาดา โดยมีเป้าหมายที่จะให้มีการใช้งานในสหรัฐฯ ได้ทันการเลือกตั้งกลางวาระ ในเดือนพ.ย.ปีหน้า
เฟซบุ๊กสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า บริษัทมีศักยภาพในการรับมือและสามารถจัดระเบียบหลังจากพบว่า รัสเซียมีส่วน
ในการสนับสนุนการลงโฆษณาเพื่อหวังผลในการแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ครั้งที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ทวิตเตอร์ได้ประกาศมาตรการเพื่อความโปร่งใสมากขึ้นเช่นกัน โดยจะมีรายละเอียดชัดเจนว่า ใครเป็นผู้ลงโฆษณา โดยเฉพาะโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง
นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังได้ห้ามไม่ให้สองสื่อยักษ์ใหญ่ที่สุดของรัสเซียคือ Russia Today (RT) และ Sputnik ซื้อโฆษณาบนทวิตเตอร์ เนื่องจากมีความกังวลว่า สื่อรัสเซียทั้งสองสำนักเคยพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2559
ถึงแม้รัสเซียยังคงปฏิเสธซ้ำๆถึงการถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทในการแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯในปีก่อน แต่คำกล่าวหาเหล่านั้นนำไปสู่การสอบสวนของเอฟบีไอเพื่อหาความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องระหว่างรัสเซียกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยผู้นำสหรัฐฯ เองก็ออกมาปฏิเสธถึงความเกี่ยวข้องนี้.