“บางจาก” โชว์รายได้ปี 61 แตะ 1.9แสนล้าน
บางจาก รุกกลยุทธ์ดันธุรกิจในกลุ่มโตต่อเนื่อง ขณะที่ ผลการดำเนินงาน ปี2561มีรายได้ 192,025 ล้านบาท EBITDA รวม 10,201ล้านบาท กำไร 3,235ล้านบาท
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2561 ว่า บริษัท บางจากฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 192,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปีก่อนหน้า มีกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 10,201ล้านบาท ลดลงร้อยละ24จากปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 2,463 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.79 บาท
ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท บางจากฯ ที่ดำเนินการขยายแหล่งรายได้ ซึ่งส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น12% แต่กำไรที่ปรับตัวลดลงนั้นเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีความผันผวนตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างมาก ประกอบกับธุรกิจโรงกลั่นมีอัตราการผลิตลดลงจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นประจำปี อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโรงกลั่นมี EBITDA 3,928ล้านบาท มีอัตราการผลิตเฉลี่ยทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมายที่102,390บาร์เรลต่อวัน มีสถิติอัตราการผลิตเฉลี่ยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 123,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือนมีนาคม
สำหรับค่าการกลั่นพื้นฐานอยู่ที่7.10เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลและมี Inventory Loss จำนวน 1,489 ล้านบาท(รวมรายการค่าเผื่อการลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ (LCM) 689 ล้านบาท) จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลงอย่างรุนแรงในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2561 ขณะที่ในปี 2560 มีInventory Gain จำนวน 834 ล้านบาท
ด้านธุรกิจการตลาด มี EBITDA 2,177 ล้านบาท มีปริมาณการจำหน่ายรวม 5,945 ล้านลิตร ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยในส่วนของตลาดอุตสาหกรรมเป็นผลมาจากภาวะการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นและการหยุดซ่อมบำรุงประจำปี ทำให้ปริมาณผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ผลิตได้น้อยลง
ขณะที่ตลาดค้าปลีกที่เป็นช่องทางหลักมีปริมาณการจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากการขยายจำนวนสถานีบริการ โดยมีจำนวนสถานีบริการน้ำมัน ณ สิ้นปี2561ทั้งสิ้น 1,175 สาขา มีการเปิดสถานีบริการใหม่เพิ่มขึ้น74สาขา ภายใต้ประสบการณ์Greenovative Experience รวมถึงได้ดำเนินกลยุทธ์เพื่อผลักดันยอดขายผ่านโปรแกรมการตลาดต่างๆ เช่น บัตรสมาชิกรูปแบบใหม่ “บางจากกรีนไมล์” ที่สามารถสะสมคะแนนทุกผลิตภัณฑ์น้ำมัน รวมทั้งสินค้าและบริการในเครือบางจาก
พร้อมทั้งการพัฒนาระบบบัตรสมาชิกในรูปแบบ Digitized Loyalty Programควบคู่ไปกับ Bangchak Mobile Application พร้อมทั้งเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจNon-Oilและบริการต่างๆ ในสถานีบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดย ณ สิ้นปี 2561 มีจำนวนร้านอินทนิลทั้งสิ้น 523 สาขา และร้าน SPAR 45 สาขา ภายใต้การดูแลของบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดด้านปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการอยู่ในอันดับที่ 2 อย่างต่อเนื่อง และมีส่วนแบ่งการตลาดสะสมทั้งปีอยู่ที่ 15.8% ด้านค่าการตลาดสุทธิใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากในช่วงกลางปีได้รับผลกระทบจากมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลของภาครัฐฯ เพื่อช่วยลดภาระให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการภาคการขนส่งในภาวะราคาน้ำมันขาขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในช่วงสิ้นปีทำให้ค่าการตลาดปรับชดเชย
ธุรกิจผลิตไฟฟ้าภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) มี EBITDA 3,569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น25% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีรายได้ 3,320 ล้านบาท
ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บีบีจีไอ จำกัด มี EBITDAรวม 692 ล้านบาทโดยธุรกิจผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซลมีรายได้จากการขาย 6,186 ล้านบาท และธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลรายได้จากการขาย 3,602 ล้านบาท
ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มี EBITDAรวม117ล้านบาท มีปริมาณการจำหน่ายรวม 407,964 บาร์เรล และมีรายได้จากการขาย 963 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 36% เนื่องจากไม่มีปริมาณการจำหน่ายจากแหล่งน้ำมันดิบGalocในครึ่งปีหลังของปี2561เนื่องจากการขายหุ้นใน Nido Production (Galoc) Pty. Ltd.