กัลฟ์ ทุ่ม 2 หมื่นลบ.ผุดโรงไฟฟ้าลมในทะเล
กัลฟ์ ทุ่มเงินลงทุนเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ผุด โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล กำลังการผลิต 464.8 เมกะวัตต์ ที่ประเทศเยอรมนี
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เรื่องการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 เมกะวัตต์ ที่ประเทศเยอรมนี
โดยบริษัท Gulf International Holding Pte. Ltd. (GIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement) กับกลุ่ม Global Infrastructure Partners (GIP) เพื่อซื้อหุ้นทั้งหมดของ Borkum Riffgrund Investor Holding GmbH, Frankfurt am Main, Germany (BKR2 Holding) ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 50% ในโครงการ Borkum Riffgrund 2 Offshore Wind Farm GmbH & Co. oHG (โครงการ BKR2) ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 548-558 ล้านยูโร หรือประมาณ 19,219-19,570 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 50% ถือหุ้นโดยบริษัทในกลุ่ม Ossted A/S (เดิมชื่อ DONG Energy) โดยสัญญามีผลใช้บังคับในวันที่ 3 ก.ค.63 คาดว่าการโอนหุ้นจะเกิดขึ้นภายในครึ่งปีหลังของปี 63 และส่งผลให้ BKR2 Holding เป็นบริษัทย่อยของ GIH
โครงการ BKR2 เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล (Offshore Wind Farm) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 เมกะวัตต์ (ขนาดกำลังการผลิตส่งออก 450.0 เมกะวัตต์) ตั้งอยู่ในทะเลเหนือ (North Sea) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนี ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือน เม.ย.62 โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement: PPA) และสัญญาบำรุงรักษา (Operation & Maintenance Agreement: O&M Agreement) กับกลุ่มบริษัท Orsted เป็นระยะเวลา 20 ปีจากวันที่เปิดดำเนินการ
นอกจากนี้ โครงการ BKR2 ยังมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ feed-in tariff (FiT) ที่รับประกันโดยรัฐบาลประเทศเยอรมนี เป็นระยะเวลา 9.5 ปี หลังจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ และจะได้รับค่าไฟฟ้าตาม merchant price โดยมีการรับประกันราคาขั้นต่ำ สำหรับปีที่ 9.5-20 จึงส่งผลให้ โครงการดังกล่าวมีเสถียรภาพทางรายได้ในระยะยาว
และมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลติดตั้งทั่วโลกรวม 6.8 กิกะวัตต์ และอีก 3.1 กิกะวัตต์ ที่จะสร้างเสร็จภายในปี 65 ในหลายประเทศ อาทิ สหราชอาณาจักร ประเทศเยอรมนี ประเทศเดนมาร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นต้น