ญี่ปุ่นช่วยเหลือโครงสร้างพื้นฐานเมียนมา
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่นและประธานาธิบดีอูถิ่นจอแห่งเมียนมามีการประชุมร่วมกันในกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้นำญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าจะประกาศความช่วยเหลือล่าสุดสำหรับโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในเมียนมา
โดยโครงการที่รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนไว้มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการพัฒนานครย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา ช่วยอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้า อ้างอิงจากถ้อยแถลงของรัฐบาลญี่ปุ่น
ในระหว่างการพูดคุยในทำเนียบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายกฯอาเบะได้กล่าวยืนยันถึงความช่วยเหลือของญี่ปุ่นในการสนับสนุนประเทศเมียนมา ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเป็นประเทศประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ หลังจากกองทัพมีบทบาทสำคัญในการปกครองเมียนมามานานหลายทศวรรษ
นายกฯอาเบะยังได้เปิดเผยถึงวิธีการใหม่ๆที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี เช่น การส่งเสริมการศึกษาภาษาญี่ปุ่นในเมียนมา และการขยายการลงทุนในประเทศโดยบริษัทญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ผู้นำของทั้งสองประเทศยังได้คาดการณ์ถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปรับปรุงสถานการณ์ในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมา หลังเกิดวิกฤตชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายแสนคนที่อพยพลี้ภัยจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของกองทัพเมียนมาข้ามพรมแดนไปบังคลาเทศ
อ้างอิงจากการประเมินของสหประชาชาติ มีจำนวนผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮิงญามากกว่า 600,000 คนที่เดินทางออกจากรัฐยะไข่ (ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ) ไปที่บังคลาเทศตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา
โดยกองทัพเมียนมากล่าวอ้างว่า เหตุรุนแรงทั้งหมดเกิดจากการโจมตีทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจของกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตก่อน ทางกองทัพเพียงแต่เข้าไปควบคุมสถานการณ์และตามจับกุมกลุ่มก่อการร้ายเท่านั้น
ทางการเมียนมาแถลงว่า ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่กองทัพมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องเสถียรภาพความมั่นคงในรัฐยะไข่และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงจากกลุ่มก่อการร้าย
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีของเมียนมากำลังอยู่ในช่วงเวลาการเยือนญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมในการประชุมนานาชาติเรื่องการแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขให้ครอบคลุม.