ญี่ปุ่น/โสมขาวกระตุ้นจีนกดดันโสมแดง
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กระตุ้นจีนให้มีความเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้นเพื่อกดดันเกาหลีเหนือให้ยุติโครงการสะสมอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ นายทาโร โคโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ท่ามกลางความกดดันที่มากขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ
“ ปัจจุบัน จีนปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่มีต่อเกาหลีเหนือ แต่จีนควรจะมีท่าทีมากกว่านี้ ” รัฐมนตรีโคโนกล่าวหลังจากมีการประชุมกับคังคยองวา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้
“ เราเห็นพ้องถึงความจำเป็นที่จะขอให้จีนมีบทบาทมากขึ้นในการกดดันเกาหลีเหนืออย่างจริงจัง ”
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือขู่ว่าจะทำลายสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และยังเคยยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่น จีนมักจะกล่าวซ้ำๆ ในการประชุมเกี่ยวกับเกาหลีเหนือและกระตุ้นให้ทุกฝ่ายมีการพูดคุยเจรจากัน
สหรัฐฯ เองก็กดดันจีนเช่นกันให้ตัดความสัมพันธ์ทางการค้าและการทูตกับเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามระหว่างประเทศที่จะปิดกั้นไม่ให้กระแสเงินสดที่ผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือกลายเป็นทุนสนับสนุนโครงการขีปนาวุธได้
ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ว่า อาจมีการนำเรือจากแปซิฟิกตะวันออกมาเสริมกำลังของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในเอเชีย เนื่องจากทางวอชิงตันต้องต่อสู้กับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค
จีนและรัสเซียเคยเสนอให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ยุติการซ้อมรบร่วมกัน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการที่จะให้เกาหลีเหนือหยุดโครงการสะสมอาวุธ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือมีวาทกรรมที่สาดใส่กันในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทรัมป์ขู่จะทำลายเกาหลีเหนือหากถูกยั่วยุ ขณะที่นักการทูตสหรัฐฯ เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการทูต
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ผู้นำสหรัฐฯ ได้เผยถึงยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทางวอชิงตันต้องรับมือกับโพสต์ที่ท้าทายจากเกาหลีเหนือ
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังหาทางที่จะร่วมมือกันในประเด็นเกาหลีเหนือ ถึงแม้ทั้งสองประเทศจะเป็นคู่ขัดแย้งกันเรื่อง ‘หญิงบำเรอ’ ก็ตาม (หญิงบำเรอคือทาสกาม ซึ่งเป็นหญิงจากหลายชาติ แต่ส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ ที่ถูกทหารญี่ปุ่นจับตัวมาและบังคับให้ทำงานเป็นเหมือนโสเภณีในกองทัพญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2)
นักวิจัยระบุว่า การโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องชี้ชัดว่า แฮกเกอร์เกาหลีเหนือจู่โจมสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ โดยมีการคาดการณ์ว่า มาตรการคว่ำบาตรจากนานาประเทศบีบให้เกาหลีเหนือต้องหาแหล่งที่มาของกระแสเงินสดใหม่
ทั้งนี้ แฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือที่มีรัฐบาลอยู่เบื้องหลังถูกกล่าวโทษถึงจำนวนการโจมตีทางไซเบอร์ที่มากขึ้น รวมถึงการโจมตีครั้งล่าสุดด้วยมัลแวร์ WannaCry ที่ส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาล ธนาคารและบริษัทอื่นๆ ทั่วโลกในปีนี้.