อิตาลีเปิดรับนักท่องเที่ยวจากยุโรป
โรม : เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. อิตาลีเปิดประเทศให้นักเดินทางจากยุโรปเข้ามาท่องเที่ยวได้ หลังจากมีมาตรการล็อกดาวน์นาน 3 เดือน โดยหวังว่าจะช่วยเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วงเริ่มต้นฤดูร้อนนี้
เรือกอนโดลาพร้อมที่จะพานักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปตามลำคลองในเวนิซ คู่รักสามารถโพสท่าถ่ายภาพเป็นโรเมโอกับจูเลียตบนระเบียงที่มีชื่อเสียงของเวโรนา และบรรดาแฟนๆที่คลั่งไคล้นักต่อสู้ในสมัยโรมันสามารถมาถ่ายเซลฟีที่โคลอสเซียมที่กรุงโรมได้
แต่มีความกังวลว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังไม่กล้าเข้ามาเที่ยวในประเทศที่ยังคงต้องมีการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาอยู่
“ มาที่คาคลาเบรีย มีความเสี่ยงเพียงอย่างเดียวคือคุณอาจจะอ้วนขึ้น” โจเล ซานเตลลี ผู้ว่าการแคว้นทางใต้ระบุเมื่อวันที่ 31 พ.ค.เพื่อดึงดูดบรรดานักท่องเที่ยวสายเปย์ให้กลับมาเยือนชายหาดในอิตาลี
อิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา และมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการกว่า 33,000 ราย
มาตรการล็อกดาวน์ในอิตาลีที่ส่งผลทำให้เศรษฐกิจทรุดเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. หลังจากนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อก็ค่อยๆลดลง
เนื่องจากประเทศกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ทำให้อิตาลีต้องการให้นัก่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเที่ยวอย่างรวดเร็ว
แต่อิตาลียังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่นับสิบรายต่อวัน โดยเฉพาะในแคว้นลอมบาร์ดี และผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลอาจเร่งรีบเกินไปในการอนุญาตให้มีการเดินทางในประเทศและต่างประเทศ
คาดการณ์ว่าจะมีเที่ยวบินระหว่างประเทศใน 3 เมืองหลักคือ มิลาน โรม และนาโปลี แต่ยังมีความกังวลว่า ผู้ที่เดินทางเป็นประจำด้วยรถยนต์ รถไฟ หรือเรือเฟอร์รีจากประเทศเพื่อนบ้าน อาจเดินทางไปประเทศอื่นในช่วงวันหยุด
สวิตเซอร์แลนด์เตือนพลเมืองของตัวเองว่า หากเดินทางไปอิตาลีจะต้องมี “มาตรการตรวจสอบสุขภาพ” ในขากลับเข้าประเทศ โดยสวิตเซอร์แลนด์จะเปิดพรมแดนที่ติดกับเยอรมนี ฝรั่งเศส และออสเตรียในวันที่ 15 มิ.ย. แต่ไม่รวมอิตาลี
ขณะที่กลางเดือนมิ.ย.นี้ ออสเตรียจะยกเลิกการปิดพรมแดนที่ติดกับเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สาธารณรัฐเช็ก สโลวาเกีย และฮังการี แต่ไม่รวมอิตาลีเช่นกัน จากถ้อยแถลงของคณะกรรมการสุขภาพของกรุงเวียนนา โดยระบุว่า อิตาลียังคงมีการระบาดอยู่
ประเทศอื่นๆ ทั้งเบลเยียม และสหราชอาณาจักร ยังคงห้ามการเดินทางต่างประเทศที่ไม่จำเป็น
ลุยจิ ดิ ไมโอ รมว.ต่างประเทศอิตาลีโต้กลับการแสดงออกว่าต่อต้านอิตาลีจากหลายประเทศว่า เขาขอเตือนว่าอย่าทำกับอิตาลี “เหมือนคนเป็นโรคเรื้อน”
เขาระบุเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ว่า เขาจะเดินทางไปเยอรมนี สโลเวเนียและกรีซเพื่อโน้มน้าวว่าอิตาลีปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
โดยนักท่องเที่ยวจากชาติในยุโรปที่มาเที่ยวอิตาลีไม่ต้องมีการแยกกักตัวเอง นอกจากว่าพวกเขาจะเพิ่งเดินทางกลับมาจากทวีปอื่น
มาตรการล็อกดาวน์ของอิตาลีส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว ซึ่งคิดเป็นประมาณ 13% ของจีดีพีของประเทศ
ในช่วงล็อกดาวน์ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ และร้านอาหารปิดหมด ขณะที่โรงแรมถูกใช้เป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วยจากโรคระบาด
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้านอาหาร คาเฟ่และหาดทรายค่อยๆเปิด แม้รัฐบาลจะระบุว่า ขอสงวนสิทธิ์ในการล็อกดาวน์อีกครั้ง หากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
มีโรงแรมเพียง 40 แห่งจาก 1,200 แห่งในกรุงโรมที่เปิดให้บริการอีกครั้ง ขณะที่มีเพียงไม่กี่สิบแห่งในเมืองมิลาน จากรายงานของหนังสือพิมพ์ Corriere della Sera เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. แต่โรงแรมจะมีค่าใช้จ่ายมากหากเปิดมาแล้วไม่มีลูกค้า
“ เจ้าของโรงแรมทุกคนอยากเปิด แต่หากพรมแดนยังคงปิด ก็เป็นไปไม่ได้เลย” มาร์โก มิเชลลี รองประธานสมาคมโรงแรม Federalberghi ระบุ
การท่องเที่ยวอิตาลีระบุว่า ชาวอิตาเลียนประมาณ 40% นิยมไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงวันหยุด แต่อาจขอความร่วมมือให้เที่ยวในประเทศในปีนี้เพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจในอิตาลี อย่างไรก็ตาม มีความไม่สลายใจอยู่บ้างกับหน่วยงานที่ดูแลสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนหอเอนปิซา วิหารแพนธีออน หรือปอมเปอีเป็นชาวต่างชาติ.