อูเบอร์ขายกิจการในจีนให้คู่แข่ง
แอพพลิเคชั่นในการเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ชื่อดังอย่างอูเบอร์ตัดสินใจจะขายกิจการในจีนให้กับบริษัทคู่แข่งสำคัญอย่างติตี้ ฉู่ชิง
ธุรกิจอูเบอร์ในจีนจะแยกการบริหารงานเป็นสัดส่วน และกิจการอูเบอร์ทั่วโลกจะถือหุ้น 15% ในบริษัทที่ควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน อ้างอิงจากการให้ข้อมูลของทางติตี้ ฉู่ชิง
ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่นในการเรียกรถแท็กซี่ของอูเบอร์เปิดให้บริการในจีนตั้งแต่ปี 2557 แต่จนถึงตอนนี้ บริษัทก็ไม่เคยมีรายงานถึงผลกำไรในการดำเนินการเลย
โดยทั้งสองบริษัทต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดมานาน แต่บริการของติตี้ ฉู่ชิงสามารถยึดครองส่วนแบ่งการตลาดในจีนได้มากกว่า
บริษัทติตี้ ฉู่ชิงรายงานว่า บริษัทให้บริการรถรับจ้างโดยสารแก่ลูกค้ามากกว่า 14 ล้านเที่ยวต่อวันและอ้างว่า บริษัทมีส่วนแบ่งในตลาดจีนสูงถึง 87%
ติตี้ ฉู่ชิงมีผู้ให้การลงทุนและสนับสนุนเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการอินเทอร์เน็ตอย่างเถินชิ่นและอาลีบาบา และบริษัทยังมีการลงทุนในบริษัทลิฟท์ ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญของอูเบอร์ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
นายดันแคน คลาร์ก ประธานบริษัทที่ปรึกษาบีดีเอ ประจำกรุงปักกิ่งกล่าวให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบีบีซีว่า “การทำความฝันให้เป็นจริงในจีน เป็นเรื่องที่มีการลงทุนสูงเกินไปสำหรับอูเบอร์ หลายคนมองว่าเป็นอุปสรรคสำคัญในการเปิดขายหุ้นไอพีโอของบริษัท”
ในเดือนก.พ.ในปีนี้ ทางอูเบอร์ยอมรับว่า บริษัทขาดทุนมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีในจีนเนื่องจากมีการใช้จ่ายเงินทุนก้อนใหญ่เพื่อเป็นการอุดหนุนให้กับราคาค่าโดยสารที่ถูกลง
นายคลาร์กเสริมว่า “สิ่งเดียวที่ต้องจับตามองอย่างระมัดระวังคือ ลูกค้ารู้สึกถึงผลกระทบของเงินอุดหนุน ที่หายไปได้เร็วแค่ไหน”
การแข่งขันของสองบริษัทในการให้บริการกันอย่างดุเดือดทำให้ทั้งคู่มีภาระหนักในการอุดหนุนเงินเพื่อให้ค่าโดยสารถูกลง การควบรวมกิจการเข้าด้วยกันครั้งนี้มีแนวโน้มจะช่วยลดมูลค่าเงินอุดหนุนได้เป็นอย่างดี
การเจรจาระหว่างอูเบอร์กับติตี้ ฉู่ชิงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากจีนตกลงที่จะวางกรอบชัดเจนสำหรับแอพพลิเคชั่นในการเรียกรถแท็กซี่ ทั้งสองบริษัทต่างขานรับการตัดสินใจของภาครัฐ เนื่องจากที่ผ่านมา แอพพลิเคชั่นในการให้บริการดูเหมือนจะคลุมเครือและซับซ้อนทางกฎหมายในจีน
โดยกฎหมายใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย.และจะช่วยควบคุมไม่ให้มีการแข่งขันกันลดราคาในการให้บริการ.