รายได้ท่องเที่ยวจีนฟุบเกือบ 60% หลังโควิด-19
ชาวจีนหลายล้านคนลดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวลงในช่วงวันหยุดยาวครั้งแรกของจีนหลังเกิดการระบาดของโรคโควิด -19
ในช่วงวันหยุดยาววันแรงงานที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 – 5 พ.ค.ในปีนี้ ชาวจีนมีทริปท่องเที่ยวในประเทศ 115 ล้านทริป ทำให้รายได้ของการท่องเที่ยวอยู่ที่ 47,560 ล้านหยวน ( ราว 219,251 ล้านบาท ) จากข้อมูลของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
นับเป็นตัวเลขที่ลดลงถึง 59.58% จากเดิมคือ 117,670 ล้านหยวน ( ราว 542,458 ล้านบาท ) ในช่วงวันหยุดแรงงานของปีที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าปีนี้หนึ่งวัน เพราะเป็นช่วงวันหยุด 1 – 4 พ.ค. จากข้อมูลของกระทรวง โดยในปีที่แล้ว จีนมีตัวเลขทริปท่องเที่ยวในประเทศอยู่ที่ 195 ล้านทริป
ขณะที่ตัวเลขโดยรวมลดลงจากปี 2562 แต่เว็บไซต์จองทริปท่องเที่ยวออนไลน์ Ctrip ระบุว่า ยอดจองเช่ารถยนต์เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน โดยเมืองเซี่ยงไฮ้ , เมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน และเมืองซานยาบนเกาะไห่หนานขึ้นแท่นเป็นสถานที่ยอดนิยมในสามอันดับแรก
โรคระบาดโควิด -19 ซึ่งเป็นโรคที่อุบัติขึ้นครั้งแรกในปีที่แล้วที่เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ยของจีน ก่อนที่จะแพร่ระบาดไปทั่วประเทศและกลายเป็นโรคระบาดทั่วโลก โดยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้คร่าชีวิตชาวจีนไปมากกว่า 4,600 ราย และมากกว่า 252,700 รายในประเทศอื่นๆทั่วโลก จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส
เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส พื้นที่มากกว่าครึ่งของประเทศจีนขยายเวลาช่วงวันหยุดตรุษจีนออกไปอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และมีมาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองต่างๆ นานนับเดือน ก่อนที่จะอนุญาตให้ธุรกิจเริ่มเปิดทำการได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และเมืองอู่ฮั่นประกาศเปิดเมืองเป็นลำดับสุดท้าย โดยเมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งยังมีมาตรการคุมเข้ม ทั้งการกำหนดให้นักเดินทางจากพื้นที่อื่นของประเทศต้องกักตัวเองนาน 14 วันหลังเดินทางมาถึง แม้การแพร่ระบาดของไวรัสจะลดลงในประเทศ
อย่างไรก็ตาม กรุงปักกิ่งประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวเพียงหนึ่งวันก่อนเริ่มช่วงวันหยุดยาววันแรงงานนี้สำหรับนักเดินทางส่วนใหญ่
ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. หลังจากปิดยาวไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนม.ค.หลังจากไวรัสระบาดหนัก โดยพิพิธภัณฑ์สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 5,000 รายต่อวันในช่วงวันหยุดยาว 5 วันนี้ จากการรายงานของสื่อภาครัฐของจีน