น้ำมันในสหรัฐฯ ถูกสุดในรอบ 10 ปี
ชาวอเมริกันจำนวนมากพากันขับรถเที่ยวเต็มท้องถนนรับช่วงวันหยุด เนื่องจากราคาน้ำมันปรับลดลงต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ราคาเฉลี่ยของน้ำมันต่อ 1 แกลลอนหรือ 3.7 ลิตรอยู่ที่ 2.31 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถูกกว่าราคาน้ำมันในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 40 เซนต์
ถึงแม้เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ราคาน้ำมันเริ่มจะปรับสูงขึ้น คือสูงกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แต่ราคาน้ำมันหน้าปั๊มในสหรัฐฯ ยังคงมีราคาถูก
คาดการณ์ว่า ประชาชนชาวอเมริกันประมาณ 30 ล้านคนมีแผนจะขับรถเที่ยวฉลองวันหยุดยาวเม็มโมเรียลเดย์ ซึ่งจัดขึ้นทุกวันจันทร์สุดท้ายของเดือนพ.ค. เพื่อรำลึกถึงทหารสหรัฐฯ ผู้เสียสละยอมพลีชีพในสงคราม
โดยวันหยุดจากวันจันทร์นี้ถือเป็นการประเดิมเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างไม่เป็นทางการของชาวอเมริกัน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ขับขี่รถยนต์บนท้องถนนจะมีจำนวนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา
จากผลการสำรวจของสมาคมยานยนต์อเมริกัน (AAA) พบว่า 55% ของผู้ขับขี่ทั้งหมดมีแนวโน้มที่จะขับรถเที่ยวในช่วงวันหยุดนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันมีราคาถูก
นายมาร์แชล โดนีย์ ประธานสมาคมเอเอเอกล่าวว่า “การขับรถเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ของชาวอเมริกันกลับมาอีกครั้งแล้ว คนหลายล้านคนจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง พร้อมแล้วที่จะเริ่มใช้เวลาช่วงฤดูร้อนจากช่วงวันหยุดเมมโมเรียลเดย์นี้ ”
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส ซึ่งเป็นมาตรฐานน้ำมันของสหรัฐฯ มีราคา 49.24 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นในเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันคงเพดานการผลิตน้ำมัน และผู้ผลิตในแคนาดาต้องหยุดการผลิตชั่วคราวจากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่า อย่างไรก็ตามมียอดผลิตน้ำมันชดเชยมาจากอิหร่าน ซึ่งกระทบตลาดน้ำมันทั่วโลก
สภาวะการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ตกต่ำลงและบางเมืองที่ผลิตน้ำมัน เช่น ในรัฐนอร์ธดาโกต้าหรือเท็กซัสก็มีรายได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จำนวนแท่นขุดเจาะของสหรัฐฯลดลงถึง 80% ใน 2 ปีที่ผ่านมานี้
โดยทั่วทั้งสหรัฐฯ รัฐมิสซิสซิปปี้มีราคาน้ำมันถูกที่สุดคือ 2.08 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อแกลลอน ขณะที่ราคาในรัฐเท็กซัสและเซาธ์ แคโรไลนาก็ไม่แพงกว่าเลย
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในรัฐแคลิฟอร์เนียแพงที่สุดในสหรัฐฯ คือ 2.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อแกลลอน แต่ก็ยังคงต่ำกว่าราคาในปีที่แล้วอยู่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ดี
จากการสำรวจของเอเอเอพบว่า จำนวนผู้ขับขี่รถยนต์ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น โดยชาวอเมริกันจำนวนมากมองว่าราคาน้ำมันที่ถูกลง ตัวเลขการว่างงานที่ลดลง ค่าจ้างที่ค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นและการเข้าถึงเครดิตที่ง่ายขึ้น ล้วนเป็นเหตุผลที่ช่วยเอื้อให้เกิดการซื้อรถยนต์ ในปีที่แล้ว มียอดขายรถยนต์สูงถึง 17.5 ล้านคันในสหรัฐฯ
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 35.77 บาท วันที่ 29 พ.ค.2559