ปธ.บอร์ด SAM คนใหม่ เร่งแก้หนี้เสียช่วยลูกค้าสู้โควิดฯ
“กฤษฎา เสกตระกูล” ประธานบอร์ด SAM คนใหม่ เดินเครื่องเร่งแก้ “หนี้เสีย” ช่วยลูกหนี้พ้นวิกฤติทางการเงิน สู้ภาวะถดถอยจากผลพวงโควิด-19 ที่ระบาดทั่วโลก พร้อมร่วมฟื้นระบบเศรษฐกิจให้พลิกฟื้นโดยเร็ว
นายกฤษฎา เสกตระกูล ประธานคณะกรรมการบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.หรือ SAM) คนใหม่ กล่าวภายหลังได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ดังกล่าว ว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาดำรงนี้ โดยดูแลการบริหารงานของ SAM ที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของประเทศมายาวนานกว่า 20 ปี ที่ผ่านมา SAM ได้ให้การช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งในภาคธุรกิจ และภาคประชาชนรายย่อย ให้สามารถกลับไปดำเนินธุรกิจและใช้ชีวิตได้ตามปกติมาแล้วรวมกว่า 50,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้มากกว่า 300,000 ล้านบาท รวมถึงยังช่วยส่งคืนอสังหาริมทรัพย์รอการขาย (NPA) กลับคืนเข้าสู่ระบบ ด้วยการขายให้กับนักลงทุนและประชาชนทั่วไป และนำไปพัฒนาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจไทยไปแล้วเป็นมูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ SAM ยังช่วยส่งเงินสดคืนกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไปแล้วเป็นจำนวนรวมกว่า 250,000 ล้านบาท และในช่วงเวลาที่ผ่านมา SAM ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศผ่าน โครงการคลินิกแก้หนี้ ซึ่งหากนับจากการเปิดโครงการตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2560 ถึงปัจจุบัน มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 50,000 ราย ทำให้วันนี้ประชาชนที่ตกอยู่ในความยากลำบากจากการผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล มีทางออกในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเมื่อปัญหาภาระหนี้สินคลี่คลายก็จะช่วยส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตและครอบครัวของประชาชนดีขึ้น และมีผลในเชิงบวกโดยตรงต่อความมั่นคงในระบบเศรษฐกิจของประเทศได้ต่อไป
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า การเข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการของ SAM ในช่วงเวลานี้ นับเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศและของโลกอยู่ในภาวะถดถอยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อประชาชนและภาคธุรกิจรุนแรงและยาวนาน โดยเฉพาะตัวเลขหนี้เสียที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงได้มอบนโยบายให้ SAM ในฐานะที่เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของภาครัฐ เร่งให้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตในครั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและช่วยฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศให้พลิกฟื้นคืนกลับมาโดยเร็วที่สุด
อีกทั้งยังได้ วางภารกิจให้ SAM เป็นศูนย์กลางการให้ความรู้เพื่อบริหารหนี้สำหรับภาคประชาชนและธุรกิจ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่กำลังเดือดร้อนควบคู่ไปกับการผลักดันนโยบายระยะยาวในการให้ความช่วยเหลือแก่สังคม โดยเน้นการให้ความรู้ทางการเงินเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการบริหารจัดการทางการเงินในระดับครัวเรือน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้ระบบเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
ก่อนหน้านี้ นายกฤษฎา ดำรงตำแหน่ง รอง ผจก.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยร่วมงานกับ ตลท. เป็นเวลานานกว่า 15 ปี เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารการเงินและด้านตลาดทุน มีประสบการณ์และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาความรู้ตลาดทุนแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม ทั้งในด้านการส่งเสริมความรู้การเงินขั้นพื้นฐานและการลงทุนสำหรับประชาชน การพัฒนาความรู้สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน การพัฒนาความรู้ผู้นำองค์กร (หลักสูตร วตท.) และการบุกเบิก Startup Education Platform เป็นต้น จนทำให้ ตลท. เป็นศูนย์กลางคลังความรู้ที่สำคัญแห่งหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรของประเทศ
นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ดูแลงานด้านการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของ ตลท. ซึ่งเป็นงานส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล (ESG) ไปด้วย เพื่อสร้างให้ตลาดทุนไทยมีสินค้าที่มีคุณภาพและดึงดูดนักลงทุนไทยและต่างประเทศ
ด้านการศึกษา นายกฤษฎา เรียนจบปริญญาตรี สาขาการเงิน ปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์ และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจ (DBA.) จาก Southern Cross University ประเทศออสเตรเลีย.