ธ.ก.ส.เปิดแล้ว! รับทำประกันภัยข้าวนาปี’63
ธ.ก.ส. เดินหน้าโครงการประกันภัยข้าวนาปี’63 กำหนดพื้นที่เป้าหมาย 45.7 ล้านไร่ คุ้มครองเกษตรกรจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและศัตรูพืช ย้ำ! รัฐอุดหนุนเบี้ยประกันภัย 58 บาท/ไร่ ส่วนลูกค้าเงินกู้ ธ.ก.ส.จ่ายสมทบอีก 39 บาท/ไร่ ชวนเกษตรกรต่อยอดซื้อเพิ่มประกันภัยลดเสี่ยงในการผลิต เผยเปิดรับทำแล้วทุกสาขา
นายสมเกียรติ กิมาวหา รอง ผจก.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 ว่า ธ.ก.ส. มีเป้าหมายส่งเสริมการทำประกันภัยบนพื้นที่ปลูกข้าวทั่วประเทศ ไม่เกิน 45.7 ล้านไร่ ตามมติคณะรัฐมนตรี และพร้อมอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรสามารถยื่นขอทำประกันภัยได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ เพียงนำบัตรประชาชนไปติดต่อก็สามารถทำประกันภัยได้ทันที
สำหรับเงื่อนไขโครงการฯ มีทั้งการประกันภัยขั้นพื้นฐาน กรณีเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. คิดอัตราค่าเบี้ยประกันภัย 97 บาท/ไร่ เท่ากันทุกพื้นที่ กรณีเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงต่ำ อัตราค่าเบี้ยประกันภัย 58 บาทต่อไร่ ในพื้นที่เสี่ยงปานกลาง อัตราค่าเบี้ยประกันภัย 210 บาทต่อไร่ และในพื้นที่เสี่ยงสูง อัตราค่าเบี้ยประกันภัย 230 บาทต่อไร่ (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยรัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 58 บาทต่อไร่
กรณีเป็นลูกค้าเงินกู้ ธ.ก.ส. ที่ใช้บริการสินเชื่อเพื่อปลูกข้าวนั้น ธ.ก.ส.จะจ่ายสมบทค่าเบี้ยประกันภัยแทนเกษตรกร 39 บาทต่อไร่ โดยคุ้มครองในกรณีเกิดภัยธรรมชาติ 7 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วม/ฝนตกหนัก ภัยแล้ง/ฝนแล้ง/ ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ/พายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาว/น้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ และช้างป่า วงเงินคุ้มครองจำนวน 1,260 บาทต่อไร่ และในกรณีเกิดภัยศัตรูพืช/โรคระบาด วงเงินคุ้มครอง 630 บาทต่อไร่
นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนให้เกษตรกรทำประกันภัยส่วนเพิ่ม แบ่งตามระดับความเสี่ยง กรณีพื้นที่เสี่ยงต่ำ ชำระค่าเบี้ยประกันเพิ่ม 24 บาทต่อไร่ พื้นที่เสี่ยงปานกลาง ชำระค่าเบี้ยประกันเพิ่ม 48 บาทต่อไร่ และพื้นที่เสี่ยงสูง ชำระค่าเบี้ยประกันเพิ่ม 101 บาทต่อไร่ (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ทั้งนี้ การทำประกันภัยส่วนเพิ่มดังกล่าว เกษตรกรจะได้รับวงเงินคุ้มครอง เมื่อเกิดภัยธรรมชาติเพิ่มอีกในวงเงิน 240 บาทต่อไร่ รวมเงินประกันภัยที่ได้รับ 1,500 บาทต่อไร่ และกรณีเกิดภัยศัตรูพืช/โรคระบาด ได้รับวงเงินคุ้มครองเพิ่ม 120 บาทต่อไร่ รวมเงินประกันภัยที่ได้รับ 750 บาทต่อไร่ ระยะเวลาขายกรมธรรม์ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันสิ้นสุดการขายเป็นรายจังหวัด
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า เกษตรกรที่เป็นผู้เอาประกันภัย ต้องขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปี ปี 2563/64 กับกรมส่งเสริมการเกษตร หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอ อย่างไรก็ตาม การใช้บริการที่สาขาจะดำเนินมาตรการตามหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.baac.or.th.