45 รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนพุ่ง ดันเศรษฐกิจไทย
สคร.เผย 45 รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ณ สิ้น มี.ค.63 พุ่งกว่า 7 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 101.78% ยืนยันรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่เบิกได้ตามและเกินเป้า จนส่วนผลักดันเศรษฐกิจไทยปีนี้
ความแตกต่างของการใช้รอบบัญชี ระหว่างปีงบประมาณกับปีปฏิทิน ยังคงสร้างปัญหาให้กับหน่วยงานรัฐ แม้กระทั่ง ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเอง ที่ต้องดำเนินกิจกรรมบางอย่างด้วยกัน เมื่อใช้รอบบัญชีไม่เหมือนกัน การเปรียบเทียบและเชื่อมโยงข้อมูลตัวเลขทางบัญชี จึงมักเป็นปัญหาและอุปสรรคอยู่เสมออย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ พยายามจะจัดสรรและเชื่อมโยงข้อมูลตัวเลขทางบัญชีที่แตกต่างกัน นำเสนอต่อกระทรวงการคลังและรัฐบาล รวมถึงสื่อมวลชน เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อในสังคมไทยให้ง่ายต่อความเข้าใจมากที่สุด
ล่าสุด นายประภาศ คงเอียด ผอ. สคร. กล่าวถึงผลการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2563 ของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง ที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรง ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2563 ว่า มีการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 71,720 ล้านบาท หรือร้อยละ 107 ของแผนการเบิกจ่ายสะสม โดยเม็ดเงินสะสมสิ้นสุด มี.ค.ปีนี้ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 1,253 ล้านบาท หรือร้อยละ 101.78
รัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่และสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง โดยเป็นผลจากการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในช่วงก่อนหน้านี้ และการปรับแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานจริง
ด้าน นายชาญวิทย์ นาคบุรี ที่ปรึกษาด้านการประเมินผลรัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง แบ่งเป็นการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 34 แห่ง 48,223 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 103 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 6 เดือน (ต.ค. 2562 – มี.ค. 2563) และการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 11 แห่ง 23,496 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 118 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 3 เดือน (ม.ค. – มี.ค. 2563)
ทั้งนี้ มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สามารถเบิกจ่ายได้เกินกว่าเป้าหมาย เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี ของ รฟม. โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคตะวันตกและภาคใต้เพื่อสร้างความมั่นคงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ 12 ปี 2560 – 2564 ของการไฟฟ้านครหลวง
สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เช่น โครงการลงทุนโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ตามแผนระบบรับส่งและโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติเพื่อความมั่นคง (ระยะที่ 1 และ 2) และแผนระยะยาวพัฒนาอสังหาริมทรัพย์/อื่นๆ ของ บมจ. ปตท. และการจ่ายค่าธรรมเนียมการประมูลคลื่นความถี่ 5G ของ บมจ.ทีโอที
“การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2563 ในภาพรวม รัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ยังคงสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ส่งผลกระทบต่อโครงการลงทุนบางโครงการที่ต้องใช้บุคลากรและการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ ทำให้ต้องปรับปรุงแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับการดำเนินงานจริงด้วย ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดย สคร. จะยังคงติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปี 2563 อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถลงทุนโครงการต่างๆ ได้ตามเป้าหมายเพื่อผลักดันเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง” นายประภาศ สรุปปิดท้าย.