ญี่ปุ่นเปิดรับแม่บ้านต่างชาติ
นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่นต้องการจะสร้างสังคมที่มีประชากรกว่า 100 ล้านคนให้สามารถใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างมีความสุข รัฐบาลจึงกำหนดกรอบและแผนที่ก้าวหน้าไปอีกขั้นภายในเดือนมี.ค.ปี 2560 ด้วยการอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านในญี่ปุ่นได้
โดยจะอนุญาตให้แม่บ้านเหล่านี้ทำงานได้ในจังหวัดคานางาวะ ที่อยู่ใกล้กรุงโตเกียวเป็นจังหวัดแรก และภาครัฐจะกำหนดเขตยุทธศาสตร์พิเศษอื่นๆในภายหลัง สิงคโปร์ ฮ่องกง ยุโรปและตะวันออกกลาง เป็นผู้ว่าจ้างที่สำคัญในอาชีพผู้ช่วยงานบ้านนี้ ซึ่งช่วยให้ผู้หญิงจำนวนมากมีอาชีพและมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในสังคม
รัฐบาลสิงคโปร์ออกใบอนุญาตในการทำงานให้กับอาชีพผู้ช่วยทำงานบ้านเหล่านี้ โดยในสิงคโปร์ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ทำงานประจำ จึงมีจำนวนแม่บ้านที่มาช่วยทำงานบ้านให้มากถึง 200,000 คน แม่บ้านเหล่านี้จะได้รับค่าจ้าง 900 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนหรือน้อยกว่านี้ และหลายคนเชื่อว่าค่าจ้างจำนวนนี้ช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศบ้านเกิดของแม่บ้านเหล่านี้ทางอ้อม
ในฮ่องกง ก็มีแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียจำนวนมาก ที่ช่วยให้ครอบครัวของผู้หญิงทำงานส่วนใหญ่มีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามบ่อยครั้งที่แม่บ้านเหล่านี้ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ทั้งการทำงานที่หนักเกินไป หรือถูกละเมิดสิทธมนุษยชนด้วยการทำร้ายและ ล่วงละเมิดทางเพศอย่างทารุณ ในปี 2558 รัฐบาลอินโดนีเซียระงับการส่งแม่บ้านไปทำงานใน 21 ประเทศและในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา ที่ขาดมาตรฐานแรงงานที่เหมาะสม
โดย ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ประกาศว่า “ต้องหยุดการอบรมผู้หญิงอินโดนีเซียเพื่อไปทำงานเป็นแม่บ้านในต่างประเทศทันที”
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า การสั่งห้ามเช่นนี้ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น เนื่องจากจะเป็นการผลักดันให้ผู้หญิงยากจนที่อยากไปทำงานแม่บ้านในต่างประเทศต้องลักลอบไปอย่างผิดกฎหมาย
สื่อในสิงคโปร์รายงานว่า เมียนมายกเลิกการส่งแม่บ้านไปทำงานที่สิงคโปร์ในปี 2557 และ 2558 เนื่องจากมีหลายกรณีที่แม่บ้านชาวเมียนมาถูกล่วงละเมิดในบ้านของนายจ้าง โดยเมียนมาอยู่ในอันดับที่ 3 ที่ส่งแม่บ้านไปทำงานที่ต่างประเทศมากที่สุด
ในยุโรป ผู้ช่วยทำงานบ้านชาวต่างชาติกลายเป็นเรื่องปรกติในเยอรมนี ฝรั่งเสสและอิตาลี แต่ในอิตาลี ส่วนใหญ่ผู้หญิงต่างชาติจะทำหน้าที่เป็นคนดูแลผู้สูงอายุในญี่ปุ่น สำนักจัดหางานหลายแห่งกำลังฝึกอบรมหญิงชาวฟิลิปปินส์เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับอาชีพแม่บ้านและสามารถทำงานได้ทันทีในเดือนมี.ค.ปีหน้า.