คลังขยับอุทธรณ์เป็น 20 เม.ย. เปิดคนตกเกณฑ์-เห็นต่างก่อน
“โฆษกคลัง” แจง! ขยับอุทธรณ์เป็น 20 เม.ย. พร้อมเปิดกว้างให้คนไม่ผ่านเกณฑ์และเห็นต่างก่อน ต่อด้วยกลุ่มกดยกเลิกเพราะเข้าใจผิด ยืนยันเร่งประสานมหาดไทยและหน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่รับการยืนยันตัวตน ย้ำ!กลุ่มผ่านการทบทวนสิทธิ์ได้เงินเยียวยาครบ 3 เดือนแน่! เผยจ่าย “5 พัน” ใน 2 รอบแรกรวม 2.4 ล้านราย เป็นเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนรอบที่ 3 เริ่มโอน 15-17 เม.ย.อีก 8 แสนราย แนะกลุ่มได้รับสิทธิ์ แต่โอนเงินไม่ผ่าน รีบผูกพร้อมเพย์กับประชาชนด่วน! คาดรับทันงวดสุดท้าย เม.ย.นี้
นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ได้โอนเม็ดเงินช่วยเหลือเยียวยาถึงคนทำงานที่เดือดร้อนจากสถานการณ์ Covid-19 ในรอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. และรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 13-14 เม.ย.แล้ว จำนวน 2.4 ล้านราย คิดเป็นมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งกระบวนการตรวจสอบและคัดกรองผู้ลงทะเบียนกว่า 27 ล้านคนโดยเร็วที่สุด โดยช่วงวันที่ 15-17 เม.ย.จะเริ่มทยอยส่ง SMS และโอนเงินเยียวยาในรอบที่ 3 ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ประมาณ 8 แสนราย คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านบาท
สำหรับ กลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์แต่ได้รับแจ้งว่าการโอนเงินไม่สำเร็จ เนื่องจากบัญชีธนาคารถูกปิด บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวนานเกิน 1 ปี ชื่อบัญชีไม่ตรงกับชื่อที่ลงทะเบียน เลือกรับโอนเงินผ่านพร้อมเพย์แต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ หรือเข้ามาแก้ไขข้อมูลบัญชีแล้วแต่ใส่ข้อมูลไม่ถูกต้อง สามารถแก้ไขได้โดยการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชนผ่าน Mobile Banking หรือตู้ ATM ได้ทุกธนาคาร โดยไม่ต้องไปสาขาธนาคาร เพื่อรอรับการโอนเงินเยียวยางวดเดือน เม.ย. อีกครั้งในวันที่ 22 หรือ 29 เม.ย.นี้
“กระทรวงการคลังรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนมาโดยตลอด และเตรียมเปิดกลไกการขอทบทวนสิทธิ์ในวันที่ 20 เม.ย. ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com จึงขอเน้นย้ำว่าประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่กระทรวงการคลัง เพราะไม่ได้มีช่องทางการเปิดรับเอกสาร และเป็นการดำเนินการตามแนวทางเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทั้งต่อตัวผู้ประสงค์จะขอทบทวนสิทธิ์เองและต่อส่วนรวมของสังคมไทย” โฆษกกระทรวงการคลัง ย้ำ
ส่วนการขอทบทวนสิทธิ์นี้ ในระยะแรกจะเปิดกว้างสำหรับประชาชนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ และไม่เห็นด้วยกับผลการตรวจสอบและคัดกรองก่อน และในระยะต่อไปจะขยายไปยังกลุ่มผู้ที่ได้กดยกเลิกการลงทะเบียนโดยความเข้าใจผิดด้วย ทั้งนี้ กลไกการทบทวนสิทธิ์จะดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยการลงพื้นที่จริงเพื่อยืนยันตัวตนและความเดือดร้อนของผู้ลงทะเบียน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลังในพื้นที่ เช่น คลังจังหวัด สรรพากรพื้นที่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นต้น รวมถึงบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ด้วย ทั้งนี้ ผู้ผ่านการทบทวนสิทธิ์จะยังได้รับเงินเยียวยาครบทั้ง 3 เดือน เนื่องจากการให้เงินเยียวยาจะใช้วันลงทะเบียนในการเริ่มนับสิทธิ์
โฆษกกระทรวงการคลัง ยังย้ำอีกว่า รัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอและมีความตั้งใจที่จะดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัส Covid-19 ให้ครอบคลุมครบทุกกลุ่มอาชีพ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาการให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมสำหรับแต่ละกลุ่มต่อไป.